ชีวิตต่างถิ่น ณ ดินแดนสิงคโปร์ : 14 วันแสนสบายใน Park Avenue Clemenceau

ในช่วงเริ่มต้นของการย้ายถิ่น ภารกิจที่สำคัญที่สุดคือการหาที่พัก (ห้องเช่า) แน่นอนว่าระหว่างๆ ฉันจะเป็นคนไร้ที่อยู่ แต่เผอิญโชคดีว่า ฉันได้รับการเอื้อเฟื้อจากบริษัทให้มาพักที่ Park Avenue Clemenceau ซึ่งเป็น service apartment เป็นเวลา 14 วัน ภายใต้เงื่อนไขที่ว่า ถ้าทำงานไม่ครบตามสัญญาจะต้องจ่ายคืนทั้งหมด

เมื่อได้ชื่อที่พัก ฉันรีบเอาไปถามอากู๋ทันที เพื่อที่ว่าวันจริงจะได้ไปถูกและพอรู้คร่าวๆว่าที่พักจะเป็นอย่างไรแบบไหน เพราะในเบื้องต้นฉันจะพาแม่ไปด้วย อยากให้แน่ใจว่าแม่จะพออยู่ได้

อากู๋บอกว่า ที่ agoda เขาเปิดให้จองนะลูก ราคาก็แสนถูก แค่ 7,666.06 บาทเอง ลดจาก 18,015.24 บาทแน่ะ

แค่อ่านแล้วคูณ 14 ก็จะเป็นลมแล้ว ถ้าทำงานไม่ครบตามสัญญาต้องจ่ายค่าที่พัก 14 วันเป็นแสน บร๊ะๆๆๆๆ ยังไงเสียก็ต้องทำให้มันครบละเหวยยยย

วันไปจริง พวกเรานั่งแท็กซี่จากสนามบินตรงมาที่พักชั่วคราวอันแสนแพง พบว่าจริงๆแล้วมันเป็นตึกเหมือนสำนักงาน ผิดจากจินตนาการของเราที่จะมีพนักงานต้อนรับมายกกระเป๋าให้ตั้งแต่เปิดประตูก้าวเท้าออกมาจากรถแท็กซี่

มองซ้ายมองขวาซักพักก็เจอประตูทางเข้า พวกเขารีบปรี่ลากกระเป๋า 42 กิโลเข้าไป

เอ้ย ทำไมมีแต่ลิฟต์ reception อยู่ทางไหนหว่า หรือว่าทางนี้เป็นทางเข้าข้างหลัง

ยืนงงมองหน้ากับคุณแม่อยู่ครู่ แล้วก็เหลือไปเห็นป้ายบอกว่า reception เชิญชั้น 5 นะค้า พวกเราถึงได้กดลิฟต์ขึ้นไปแบบงงๆ เออเนอะ ไม่เคยเจอโรงแรมแบบนี้ (ก็มันเป็น service apartment นี่คะคู้ณณณณ)

ขึ้นมาถึงชั้น 5 ก็เจอ reception จนได้ (พอดีถ่ายตอนทานอาหารเช้า คนเลยครึกครื้น ตอนฉันกับคุณแม่ขึ้นมานี่โล่งมาก จนพวกเราไม่ค่อยแน่ใจนักว่าเป็นสำนักงานหรือที่พักกันแน่)

การ check in เป็นสิ่งที่ง่ายมาก เพียงแค่แสดง passport หรือเอกสารใดๆที่มีชื่อและรูปของคุณ (แต่ต้องตรงกับหน้าจริงด้วยนะ ไม่งั้นเขาไม่ให้เข้าพัก) พนักงานจะยื่นซองที่มี key card และรหัสผ่าน wifi ให้ พร้อมกับขอข้อมูลบัตรเครดิตเพื่อประกันไว้เผื่อมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เช่น ข้าวของเสียหาย ใช้บริการซักรีด หรือใช้โทรศัพท์ในห้องโทรทางไกล เขาจะได้เก็บจากบัตรเราทันที -0-

ถ้ามองย้อนกลับไปจาก reception counter จะเห็นประตูลิฟต์ที่นำพวกเราขึ้นมา (อันนี้บรรยากาศจริง โล่งแบบนี้เลย)

ถ้าเดินไปยืนตรงกลางห้องโถง มองออกไปจะเห็นสระว่ายน้ำ

ชะเวิบไปดูของจริงซักหน่อย

เนื่องจากที่นี่  ลูกค้าส่วนมาจะเป็นพวก expat หรือชาวต่างชาติที่มาทำงานที่สิงคโปร์ชั่วคราว ที่นี่ถึงมี business center ที่เป็นเรื่องเป็นราวมาก นึกว่าอยู่ในห้องผู้บริหาร

และยังมีห้องออกกำลังกายกว้างขวางที่คนไม่ค่อยรู้ว่ามี = = (เพราะอยู่ในห้องปิด ไม่มีป้ายบอกไว้ ต้องไปถามพนักงานเอง)

สำรวจข้างนอกหมดแล้ว ก็ขอไปดูในห้องกันบ้าง เปิดประตูเข้าไปก็จะเจอส่วนที่เป็นห้องนั่งเล่น ข้างในมีห้องในที่พกห้องน้ำมาด้วยในตัว และเลี้ยวขวาเข้าไปจะเป็นโต๊ะอาหาร ต่อด้วยห้องครัว

ต่อไปจะมาสำรวจกันทีละห้อง เริ่มจากห้องนั่งเล่น

จริงๆตั้งใจทำให้รก จะได้รู้ว่าเป็นสถานที่ถ่ายทำจริงแน่ๆ (ข้ออ้างทั้งนั้น) คุณแม่คนสวยกำลังจัดเก็บข้าวของอยู่ ในโซนนี้มีโซฟาขนาดคนตัวสูงนอนได้สบาย โต๊ะเตี้ยที่ใหญ่กว่าปกติและเก้าอี้สีส้มที่นั่งไม่ค่อยสบายนัก วันหลังๆมันเลยเป็นแค่ที่วางของ

ฝั่งตรงข้ามคือทีวีจอแบนติดผนัง เครื่องเล่น DVD และชุดเครื่องเสียง เคยลองแต่ดูทีวี มีเคเบิลของ Starhub ดูได้หลายช่องหลายแนวอยู่เหมือนกัน เครื่องเสียงกับ DVD ปล่อยทิ้งไว้ ไม่ได้ทดลอง มุมนี้ติดอยู่อย่างเดียวคือทีวีไม่ได้อยู่ตรงกลางพอดีกับโซฟา เวลาจะดูต้องนั่งอยู่ทางซ้ายอย่างเดียว ไม่งั้นตาเหล่แน่ๆ

เข้าไปยังห้องนอน เจอเตียง king size ใหญ่นุ่มน่ากระโดดลงไปนอน พร้อมด้วยหมอนไว้นอนหนุนนอนกอดอีก 4 ใบมีตู้เสื้อผ้า built in ที่พร้อมด้วยไม้แขวน ถุงส่งซักรีด เสื้อคลุมอาบน้ำเข้าชุดกับรองเท้าแตะใส่ในบ้านที่ชอบเห็นไฮโซนิยมใส่ในละคร และตู้เซฟเผื่อเก็บของมีค่า (ดังนั้นตู้นี้จะไม่ได้เก็บอะไรเลยตลอด 14 วันนี้)

เปิดหน้าต่างออกไปชะแว๊บมา 1 รูป

ห้องนอนนี้แถมมาด้วยห้องน้ำขาวหมดจด ประกอบด้วยชุดสุขภัณฑ์อย่างดีและอ่างอาบน้ำสุดหรูหลังม่าน (ก็ไม่เข้าใจว่าตอนถ่ายรูปจะปิดม่านไว้เพื่อ) แถมผ้าขนหนูผืนใหญ่และผื่นเล็กเช็ดหน้ามา 2 ชุด ที่เห็นพาดชักโครกอยู่คือพรมเช็ดเท้า เกือบเอามาเช็ดแล้วถ้าไม่เอะใจซะก่อน

ที่ไม่ชอบจริงๆคือในห้องน้ำไม่มีสายชำระ ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยย เวลาทำธุระหนัก ต้องกะให้ได้ก่อนอาบน้ำ เพราะไม่ชินกับการเช็ดด้วยกระดาษชำระอย่างเดียว รู้สึกว่าไม่สะอาด

ต่อกันที่ห้องครัว เห็นโล่งแบบนี้ มีให้ลองอยู่หลายอย่าง เริ่มตั้งแต่ตู้เย็น อ่างล้างจาน เตาไฟฟ้าเครื่องดูดควัน เตาเอบ ไมโครเวฟ ยันเครื่องซักผ้า

ตามตรอกตู้ซอกลิ้นชัก เขาจัดอุปกรณ์มาซุกไว้หมด ช้อน ส้อม มีด แก้ว ตะหลิว กระบวย กระทะ หม้อ จาน ชาม มีด เขียง ฯลฯ ในรูปนี่แค่ตัวอย่างเท่านั้น

 

 

ยังอุตส่าห์มีของเล่นเล็กๆน้อยๆซุกซ่อนไว้อีก

ต้องลองซักผ้าก่อน ไม่เคยใช้ ถึงขนาดถามอากู๋เอาเลย (ถ้าสังเกตดีๆจะมี manual เล่มบางๆวางอยู่บนเครื่องซักผ้า แต่มองไม่เห็นเอง ฮ่าๆ (นอกจากเครื่องซักผ้ายังอบผ้าได้แล้ว เลือกเอาได้เลยแห้งมากแห้งน้อย ยังมีเตารีดและที่รองรีดให้อย่างดีให้ใช้ ซ่อนอยู่ข้างหน้า สิ่งที่ไม่ชอบคือไม่รู้จะตากตรงไหน TT จะอบอย่างเดียวเปลืองไฟแย่ ถึงจะคิดไปแล้วก็เหอะ)

ระหว่างรอผ้าซัก ไปซื้อของที่ซุปเปอร์มาเก็ตใกล้ๆมาทำอาหาร

หยิบมีดกับเขียงมาใช้ประโยชน์ทันที

เมนูนี้คือ เป็ดผัดบล็อคโคลี่นั่นเอง (ไม่มีข้าวหรอก กินกับขนมปังปิ้ง ฮ่าๆ)

เอาสตอเบอร์รี่ออกมาล้างเตรียมทำสลัด

แล้วก็เติมผลไม้ชนิดอื่นๆลงไป

เสร็จออกมา 1 มื้อ ไข่ดาวแอบหน้าตางงๆ ยังกะไฟไม่ถูกอ่ะ

พอไฟเสีย แล้วไปแจ้ง ถึงช้าไปนิดดดด แต่เจ้าหน้าที่ก็ขนอุปกรณ์มาซ่อมให้อย่างดี

ทุกเช้าจันทร์ถึงศุกร์ยังมีอาหารเช้าให้ฟรี ตามกลิ่นไปที่ห้องนี้เลย

ขนมปังเยอะมาก

มีคอนเฟล็กและน้ำชากาแฟตบท้าย

นอกจากนี้ยังมีบริการทำความสะอาดอาทิตย์ละ 3 วัน (แต่ดันไม่ล้างจ้างให้ TT) ให้เลือกเอาจันทร์ พุธ ศุกร์  หรือ อังคาร พฤหัส เสาร์ แขวนป้ายเชื้อเชิญให้ทำความสะอาดไว้หน้าห้อง แล้วพอกลับมาถึงห้องเราจะเนี้ยบบบบมากกก

อพาร์ทเมนต์อยู่ใกล้ๆ คลากคีย์ ดึกๆเหงาๆ ก็ไปแดนซ์ได้ แต่ฉันขอบาย นั่งเขียนอะไรเรื่อยเปื่อยอยู่ที่ห้องดีกว่า สุขสบายขนาดนี้ ^^