จริงๆแล้ววันนี้ไม่ได้ไปแค่ S.E.A. Aquarium แต่ถึงเป็นกิจกรรมที่โดดเด่นสุดๆแล้ว พูดถึงกิจกรรม เรามาดูตารางเวลากันเลย รับประกันความโหดเหมือนเดิม
2 August 2014
8:30 Leave home
9:00 Breakfast @Singapore Zam Zam Restaurant
10:00 Bugis – Haji Lane / Bugis Village
12:00 Lunch @ Din Tai Fung (Sentosa)
13:30 S.E.A. Aquarium
17:30 Merlion
19:00 NDP 2014 Firework Rehearsal (One Fullerton)
20:40 Wonderfull (ฝั่ง Merlion)
21:00 Singapore River Cruise
แม้จะเปื่อยกันมา 2 วันเต็มๆ แต่พวกเราวัยรุ่นก็ยังมีแรงอยู่ วันนี้คนพร้อม กล้องพร้อม ก็เริ่มออกเดินทางได้
เช้าวันนี้เราจะไปลิ้มลองอาหารอินเดียกันที่ Singapore Zam Zam Restaurant ในย่าน Bugis
วิธีการมาก็แสนจะง่าย จาก Bugis MRT ให้ออก Exit B ออกมาจะเจอถนน North Bridge Road เดินตามถนนไปเลย ข้ามถนน 1 ที ร้านจะอยู่ตรงข้ามกับ Sultan Mosque ร้านเปิด วันจันทร์ – พฤหัสบดี 8:00 – 00:00 และ วันศุกร์ – อาทิตย์ 8:00 – 02:00
ด้วยความที่คุณสำลีมีหน้าตาละม้ายคล้ายคลึงกับชาวอินเดีย เมื่อไปถึงร้าน เจ้าของร้านเลยไม่ดูแลเทคแคร์แนะนำ คาดหวังว่าจะให้สั่งเลย เราสองก็อึกอักๆกันอยู่พัก หันไปขอความช่วยเหลือคนข้างๆจึงสามารถสั่งอาหารมากินได้
เมนูแรก มะตะบะไก่ เสิร์ฟคู่กับแกงสีเหลืองๆที่กินยังไงก็ไม่อร่อย
อีกเมนูคือ Roti Prata เป็นโรตีห่อไข่และชีส (ไส้ตามสั่ง จะเอาแต่โรตีอย่างเดียวก็ได้) เสิร์ฟคู่กับแกงชนิดเดิม จะอร่อยกว่านี้มากถ้าโรยนมข้มหวานตามด้วยน้ำตาลกลายเป็นของหวานไปเลย
ขาดไม่ได้คือชานมร้อนๆ ไม่หวานมาก ทั้งมื้อถูกใจแก้วนี้ที่สุดแล้ว
นางกลมกลืนมากกก หยิบจับอะไรคล่องไปหมด ขนาดเพิ่งเคยมากินเป็นครั้งแรก
อิ่มแล้วสินะไอตูด
ภารกิจถัดไปคือการตามหา Haji Lane ตามหา ถนนที่รวบรวม Shop house สีรุ่งแสนสวยเอาไว้ด้วยกัน ซึ่งจริงๆหาไม่ยาก ตาม Google Maps ข้างล่างนี่ไปเลย
ใช้เวลางมกันไม่นานก็ถึง
แต่สงสัยว่ามันเช้ามากไปหน่อย ร้านรวงต่างๆเลยยังไม่เปิดซักกะร้าน เฮ้อ คุณสำลียืนเศร้าแป๊บ
ถนนนี้ไม่ยาวมากนัก เต็มไปด้วยร้านอาร์ตๆ ชิกๆ ที่ดูแปลกตาดี บางตึกก็มีการเพนท์วาดลวยลายเอาไว้ด้วย เจ๋งซะไม่มี
เดินหมดถนนนี้ ก็ข้ามไปเดิน Arab Street ที่อยู่คู่ขนานกัน
ยังคงคอนเซ็ปต์ความชิลๆชิกๆเอาไว้
มีอะไรให้ถ่ายรูปเล่นค่อนข้างเยอะ ว่าแต่ทำไมหุ่นยนต์อีกตัวสนิมเกาะขนาดนั้นละเนี่ย
สุดทางคือ Sultan Mosque เคยมาตอนกลางคืนสวยมั่กๆ แต่เอาวิวตอนเช้าไปก่อน
คุณสำลีตั้งตาตั้งตาศึกษาประวัติมัสยิดใหญ่ บอกให้สรุปให้ฟังนางบอกไม่รู้ เมื่อกี้แอ๊คให้ถ่ายรูป มันน่านัก
เริ่มหลง ไม่รู้ไปที่ไหนต่อ
อากาศเริ่มร้อน เลยพากันหาที่นั่งพักในร้านกาแฟแถวนั้น Starbuckssss
กาแฟ Starbucks สำหรับที่นี่จัดว่าแพงกว่ากาแฟธรรมดาเพียงเล็กน้อย ราคาพอๆกับข้าวหรือมากกว่านิดหน่อย คนที่นี่เลยซื้อกินกันแบบไม่ได้ตะขิดตะขวงใจนัก
อันนี้ก็ไม่ได้ดูหรอกแผนที่ แกล้งแอ๊คให้ถ่ายรูปอีกตามเคย แหม พ่อคุณ
ต่อไป เป็นการไปตามหา Bugis Village ซึ่งมีบันไดวนแปลกๆอยู่ข้างหลังตึก เดินงมแผล็บเดียวก็เจอแล้ว สีสันสวยงาม แต่หามุมถ่ายได้ยากมาก เพราะสภาพหลังตึกแถวนั้นไม่โสภานัก มีแต่ถังขยะและรถจอดเต็มไปหมด
เสร็จสินภารกิจใน Bugis เราจะเดินทางไป S.E.A. Aquarium ในเกาะ Sentosa กันต่อ โดยจะนั่งรถเมล์ไปลง Vivo City แล้วค่อยต่อ Sentosa Express ไปอีกที ลุ้ยยยย
นั่งมองตากันบนรถเมล์ สวีทจริงจริ๊งงง
S.E.A. Aquarium อยู่ Waterfront Station ซึ่งเป็นสถานีเดียวกับ USS พอไปถึงก็เที่ยงแล้ว ท้องเริ่มร้องพอดี เลยต้องฝากท้องไว้กับร้านติ่มซำชื่อดัง Din Tai Fung ซื้อตั้งอยู่ไม่ไกลจาก S.E.A. Aquarium
หลังจากยืนรอโต๊ะ 15 นาที และนั่งรออาหารอีกเกือบ 20 นาที หมูของฉันก็มาเสิร์ฟจนได้
นั่งรออีกซักพักเสี่ยว หลง เปา ไส้ปู ก็มาเสิร์ฟ
มาพร้อมกับเสี่ยว หลง เปา กุ้ง
กินล่ะนะ
ตบท้ายด้วยของหวาน ถั่วแดงไส้ช็อคโกแลตลาวา
ค่าเสียหาย โดน VAT กับ service charge อีก 17%
กินจนพุงเกือบแตก ก็ได้เวลาไปเดินย่อยดูปลาลันล้าสบายใจที่ S.E.A. Aquarium
ที่ทางเข้ามีของเล่นอยู่มากมายให้ไปถ่ายรูปเล่นกัน
คุณสำลีเป็นนักปราชญ์ไปซะแล้ว อีกนิดนึงสีเหมือนรูปปั้นเลย
เด็กฮิปตีกลองชุด
ไปทำอะไรกับเค้าาาา
ลงไปยังโลกใต้น้ำแล้วนะฮ้าบบ
ลงไปเจอะกับซากเรืออับปาง ตื่นตะลึง
แทรกตัว(อ้วนๆ) เข้าไป ถ่ายรูป ฮึ๊บ
ต่อไปเป็นอุโมงปลา ปลาาาาา (ปลาแมร่งหนีหมด)
คนเยอะมว๊าก ตามมู๋มา อย่าให้หลง
มองขึ้นไปข้างบน เห็นแต่ปลา
ปลาประหลาด dragon leaf seahorse ไม่อยากจะจินตนาการตอนครีบไปเกี่ยวประการัง
ตู้กระจกแบบ 360 องศา ใสแหน๋ว
หมู่ปลา ลักษณะการเคลื่อนไหวน่ากลัวมาก เหมือนตัวอะไรซักอย่างในหนังสยองขวัญ สงสัยได้แรงบันดาลใจมาจากปลาชนิดนี้
โลมาน้อย มีการโชว์ว่ายแบบหมุนไปมาด้วย ขี้เล่นมาก
หมู่ปลา สีน้ำเงินเชียววว
แมงกะพรุนจิ๋ว จริงๆสีใส แต่ให้แสงสีเขียว
แสงสีแดงมั้ง น่ากลัวไปไหม
เหมือนเยลลี่
กะพรุนๆ ทำไมชายลุ่ยขนาดนี้ละลูก
ยังอยู่ในเซ็ตกะพรุน
มาถึงทีเด็ดของ Aquarium แห่งนี้ นั่นก็คือตู้กระจกที่ใหญและยาวมว๊ากกกกกก หามุมถ่ายกันอยู่นาน ยังไงก็เก็บไม่หมด
การถ่ายรูปคุณสำลีใน Aquarium ถือเป็นสิ่งที่ท้าทายมาก ในที่สุดฉันก็ค้นพบ solution ให้ไปยินมันตรงที่ไฟส่องซะเลย
ขอแอ๊คหน้าตู้ปลายักษ์สักนิด
จากนั้นเราจะไปส่องว่าข้างในตู้ปลายักษ์ มีอะไรบ้าง ที่เป็นไฮไลท์เลยก็คงจะเป็นกระเบน ยิ้มแย้มแจ่มใสเชียว
ใหญ่ดีแท้
ยาน Batman?
เดินออกมาอีกหน่อย เจอหมู่ปะการัง
ปลาไหลสมุนเออร์ซูล่าในเรื่อง Little Mermaid
ถึงอุโมงฉลามที่เป็นทางออกแล้ว
กลัวไปงั้น ปลามันสนที่ไหน
All Sharks
สนุกกกก
ออกมาเจอที่ขายของที่ระทึก คอนเซ็ปต์เดิม ถ่ายรูปเล่น ไม่มีเงินซื้อ
ตอนออกมาก็ยังมีรูปปั้นให้ถ่ายรูปเล่นด้วยอยู่เป็นระยะ เอารูปไปให้เค้าดูอีก
เอาแผนที่ไปถามทางบ้างดีกว่า
เมาแล้วหอมแก้มมันเลย
ย้าก ตกใจ
ได้เวลาซื้อของฝากที่ร้าน Candylicious
จริงๆแล้ว ถ้าจะให้ถูกควรไปซื้อที่ Mustafa แต่ ณ จังหวะนี้ขี้เกียจดั้นด้นไปแล้ว เลยตัดใจเข้าร้านไฮโซ
ได้มาแล้วฮ้าาา
ขณะนั้นเวลา 5 โมง ได้เวลาเคลื่อนทัพต่อไปยัง Merlion จะนั่งรถเมล์หรือ MRT ไปลงสถานี Raffles Place แล้วเดินต่อก็ได้
ตัวแม่-ลูก
สัญลักษณ์ของประเทศ
เนื่องจากวันที่เราไป มีการซ้อมการแสดงและจุดพลุของวันชาติสิงคโปร์ (NDP 2014) ที่จะมีในอาทิตย์หน้า วันนี้เลยถือเป็นซ้อมใหญ่สุดท้าย นักท่องเที่ยวไปจับจองที่ดูพลุกันอย่างหนาแน่น
อัฒจรรย์ลอยน้ำชั่วคราว สร้างมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ โดยคนที่ขึ้นอัฒจรรย์ได้ทั้งรอบซ้อมรอบจริงจะต้องเป็นคนสิงคโปร์เท่านั้น ไปลงทะเบียนในเว็บไซต์แล้วรัฐจะสุ่มเลือกขึ้นมา มีซ้อมทุกวันเสาร์ 1 เดือนล่วงหน้า ซึ่งจะมีการ้โชว์จรวด เฮลิคอปเตอร์ ตำรวจน้ำ นักดับเพลิง ฯลฯ และที่ขาดไม่ได้เลยคือ จุดพลุ จะมีตั้งแต่ 25%, 50%, 75%, 100% ยิ่งใกล้วันจริงยิ่งจัดเต็ม บอกได้เลยว่าอลังการงานสร้างมากๆ
พวกเราไปดูกันที่หน้า One Fullerton ซึ่งเป็นหนึ่งในมุมที่ดีที่สุด ไปรอก่อนประมาณ 2 ชั่วโมง แต่ก็มิวายมีชายชาวจีนพยายามเข้ามาแทรกตอน 30 นาทีสุดท้าย มาสาย ขาตั้งกล้องก็ใหญ่ ไร้มารยาทมาก
คุณสำลีตั้งกล้องรอพลุตั้งแต่ฟ้ายังสว่าง
2 ทุ่มนิดๆ พลุก็เริ่มจุด
การถ่ายพลุเป็นอะไรที่ลำบากนัก เพราะควันมันเยอะเหลือเกิน
หลังจากพลุจบไม่นานก็มีโชว์ประจำ Marina Bay นั่นก็คือ Wonderfull แสดงต่อ คราวนี้เราดูหน้า One Fullerton ฝั่งตรงข้ามกับ MBS รอถ่ายเลเซอร์
นี่แหนะ
ช่วงจังหวะพีค ปล่อยทุกสีที่มี
โชว์จบประมาณ 3 ทุ่ม ได้เวลาไป Singapore River Cruise ต่อ จากจุดที่ยืนอยู่ สามารถเดินเลียบแม่น้ำขึ้นไปเรื่อยๆเพื่อไปขึ้นเรือที่ Clarke Quay ได้ ระยะประมาณไม่ถึงกิโล
เดินผ่าน The Fullerton Hotel อันโด่งดัง
ทุกสะพานจะมีอุโมงค์ให้ลอดใต้สะพาน แถวยังมีศิลปะฝาผนังน่ารักอีกด้วย
ถึงแล้ว Clarke Quay คนเยอะมว๊ากกก
จุดขึ้นเรือตรงนี้เลย
ไปยืนต่ออยู่เป็นคิวแรกๆ แต่โดนทัวร์จีนแซงขึ้นก่อนซะอย่างนั้น เลยอดนั่งข้างนอก ต้องมานั่งในเรือแทน เซ็งเบาๆ ถ้าไปเองแบบไม่ได้ไปกับทัวร์ต้องทำใจ ที่นี่เซอร์วิสทัวร์ก่อน ถึงจะต่อแถวอยู่นานแค่ไหนก็ต้องให้ทัวร์ไปก่อนเสมอ ดังนั้นต้องใจเย็นๆ (อ๊าก เซ็งโว้ยยยย)
ในเรือก็สวีทได้ ชิ
วิวสิงคโปร์ยามค่ำคืน (แต่เมฆขาวเชียว)
ปิดท้ายด้วยตึกที่มีหน้าต่างหลายสีอยู่แถว Clarke Quay ไม่รู้ตึกอะไรแต่สวยดี
พรุ่งนี้วันสุดท้ายแล้ว จะพาไปปั่นจักรยานแถว East Coast Park กันแบบชิลๆ วันนี้ขอจบ post ที่ยาวแสนยาวไว้แค่นี้ค่า