My Cotton Returns, Singapore – Malaysia ตอนที่ 4: ทัวร์กัวลาลัมเปอร์ ไปกันเอ๋อๆสองคน

4 พ.ย. (กัวลาลัมเปอร์ -> บินกลับสิงคโปร์)

วันนี้ตื่นสายกว่าที่กำหนดไปเป็นชั่วโมงเพราะความเหนื่อยจัด อาบน้ำ จัดกระเป๋า ลงไปเช็คเอ้าท์แล้วฝากกระเป๋าไว้กับทางโรงแรมเพราะกะว่าต้องกลับมาไม่ทันเที่ยงแน่ๆ

เมื่อเช็คดูแล้วว่าดีลที่จองมา 1,200 บาท ไม่มีอาหารเช้าให้ พวกเราก็ต้องหอบหิ้วกระเพาะอันหิวโหยไปตายเอาดาบหน้า

แต่ปัญหาก็คือ เงินสกุล rm ที่แลกมาหมดแล้วววว และยังไม่ได้ซื้อของฝากอะไรเลย แง่วววว ก็เลยเอาเงิน sgd ที่ติดไปด้วย ไปแลกเอาแถว Bukit Bintang เรทดีพอสมควร 1 sgd ต่อ 2.6 rm แลกไป 50 sgd ได้มา 130 rm พร้อมลุยต่อ

แผนคร่าวๆของเราในวันที่คือการเดินเที่ยวชมสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของมาเลเซียแถวสถานี Masjid Jamek และบริเวณโดยรอบ แล้วค่อยขึ้นรถกลับมาเอากระเป๋าที่โรงแรมเพื่อไปสนามบิน

ขอนำแผนที่ออกมาโชว์อีกครั้ง เราจะขึ้นรถไฟจาก Bukit Bintang (สายเขียว) เปลี่ยนขบวนเป็นสายส้มที่ Hang Tuah เพื่อไปลงที่สถานี Masjid Jamak

1adab49691a16ada9a271d780962e313

ขอลงรูปสถานที่รถไฟฟ้าของมาเลเซียให้ดูชัดๆ สภาพโดยรวมของเค้าค่อนข้างเก่า ถ้าเป็นสายเขียวรถจะมีอยู่ 2 โบกี้เท่านั้น สั้นๆเล็กๆ ทางขึ้นลงไม่ค่อยเป็นระบบนัก รูปที่ถ่ายคือยืนอยู่บนสะพานข้ามไปอยู่อีกฝั่งหนึ่ง ตอนแรกก็พยายามหาทางลอดไปอีกฝั่งนานมาก เพราะสถานีอื่นๆต้องลอดไป พอเห็นสะพานแล้วค่อยตระหนักได้ว่า อ้าว ให้ข้ามไปหรอกหรือ แป่ววว

DSC03885

จากสถานี Masjid Jamek เราจะเดินเป็นวงกลม โดยเริ่มจาก 1) มัสยิดจาเมก (Masjid Jamek) -> 2) China Town (Petaling Street) -> 3) Central Market -> 4) จัตุรัสเมอร์เดกา (Dataran Merdeka) -> 5) Sultan Abdul Samad Building (ตรงข้ามจัตุรัสเมอร์เดกา)

Capture1_1

มัสยิดจาเมก (Masjid Jamek) ตั้งอยู่ติดกับสถานี Masjid Jamek ที่เรานั่งรถมาลง (สถานีคงตั้งชื่อตามมัสยิดแห่งนี้) แต่ดันเข้าไม่ได้เพราะใส่ขาสั้น (ก็มันร้อนนี่หน่า) เลยยืนถ่ายรูปมันจากสถานีซะเลย เดินสำรวจแล้วพบว่ามันเป็นมุมที่ดีที่สุดที่หาได้

DSC03888

มัสยิดจาเมก (Masjid Jamek) ตั้งอยู่ที่จุดที่งแม่น้ำกอมบักและแม่น้ำคลางไหลมาบรรจบกัน หรือที่เรียกได้ว่าเป็นบริเวณจุดกำเนิดของกัวลาลัมเปอร์ เป็นมัสยิสที่เก่าแก่มาก สร้างขึ้นตั้งแต่ ค.ศ. 1909 ออกแบบ โดยเอ บี ฮับบอคส์ สถาปนิกชาวอังกฤษ รูปแบบสถาปัตยกรรมลอกเลียนมาจากมัสยิดในอินเดียภาคเหนือ ตัวมัสยิด Jamek จะมีโดมรูปหัวหอม เสาระเบียงโค้ง และพื้นหินอ่อนที่ส่องแสงแวววาว ในอดีตเคยเป็นมัสยิดที่สำคัญที่สุดของกัวลาลัมเปอร์ จนกระทั่งมีการสร้างมัสยิดแห่งชาติในปี ค.ศ. 1965

แต่ถ้าอยากเข้าไปดูหินอ่อนชัดๆ ก็ต้องแต่งตัวตามนี้เลยค่า โดยเฉพาะคุณผู้หญิง ต้องใส่ผ้าคลุมหัว ขายาวคลุมถึงข้อเท้า และเสื้อแขนยาว ไม่งั้นก็ต้องยืนทำตาปริบๆส่องเข้าไปเหมือนพวกเราละนะ

DSC01276

น้ำย่อยเริ่มออกทำงาน  พวกเรามุ่งหน้าไป China Town ซึ่งตั้งอยู่ที่ถนนเปตาลิง (Petaling Street) เพื่อตามหาของกินมาประเคนกระเพาะน้อยๆที่กำลังโหยหวน

ระหว่างทางเดินไปก็เก็บภาพกันไปด้วย เหมือนอยู่ในกรุงเทพยังไงยังงั้น ร้อนแทบจะละลาย

DSC01239

 มีตึกสวยๆบางจุด

DSC03892

เดินมาประมาณ 10 นาที ก็ถึงแล้วววววววววว China Town

DSC03893

เข้าไปเดินแล้วผิดหวังยิ่งนักที่ไม่มีอะไรน่าสนใจมากนัก อาหารก็ถือว่าไม่ตื่นตาตื่นใจเอาซะเลย เป็นข้าวราดแกงธรรมดา คิดแล้วอยากกลับไปเดินจัตุจักรบ้านเรานัก ใช้เวลาเดินอยู่จริงๆไม่ถึง 10 นาทีแล้วไม่ได้อะไรกลับมา แต่ด้วยความหิวเลยตัดสินใจข้ามถนนมากินร้านที่อยู่เยื้องๆปากทางเข้า ด้วยความหวังว่ารสชาดคงพอประทังชีพได้

มาแล้วเมนูแรก หมูแดงหมูกรอบเสิร์ฟพร้อมกับข้าวหมกไก่? งง แต่หมูแดงถือว่าอร่อยเลยทีเดียว

DSC01245

เมนูที่สอง ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ น่าจะประมาณ 8 rm แพงอยู่ พอกล้อมแกล้มไปได้

DSC01246

ท้องอิ่มก็ออกเดินทางไปจุดหมายต่อไป Central Market ซึ่งเป็นเหมือนตลาดติดแอร์ (ค่อยยังชั่ว ไม่งั้นร้อนละลายแน่ๆ) มีสินค้าพวกขนมพื้นเมือง ผ้าทอ ขายอยู่หลายร้าน ใช้เวลาอยู่ที่นี่ค่อนข้างนานเพราะมัวแต่เลือกหาของฝากให้ท่านแม่ที่เมืองไทย เพราะก่อนจะมาถูกกำชับมาซะดิบดีว่าต้องมีผ้าถุงมาเลย์ติดมือกลับไปฝากให้จงได้

แล้วลูกจะเลือกถูกไหมคุณแม่

ป.ล. ที่นี่มีศูนย์อาหารดูดีอยู่ เสียดายเพิ่งกินมา

DSC03897

เสร็จภารกิจของฝาก พวกเราก็เดินต่อไป  จัตุรัสเมอร์เดกา (Dataran Merdeka) ซึ่งอยู่ไม่ไกลนัก เป็นสถานที่ประกาศอิสรภาพของมาเลเซียจากอังกฤษ เมื่อเที่ยงคืนในวันที่ 31 สิงหาคม ค.ศ.1957 ธงยูเนี่ยนแจ๊คของสหราชอาณาจักรถูกชักลงเป็นครั้งสุดท้าย

สำหรับฉันก็ให้อารมณ์ประมาณสนามหลวง  แต่เล็กกว่ามาก

DSC01251

สนามหญ้าเขียวแบบไม่เต็มนัก

DSC03917

เสาธงที่อยู่ที่นี่ถือเป็นเสาธงที่สูงที่สุดในอาเซียนเลยทีเดียว

DSC03900

มองไปฝั่งตรงข้าม ก็จะเห็น Sultan Abdul Samad Building ซึ่งเป็นหนึ่งในอาคารประวัติศาสตร์ อาคารแห่งนี้สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1897 ตั้งชื่อตามพระนามขององค์สุลต่านผู้ปกครองรัฐ และเป็นที่ตั้งของหน่วนงานรัฐบาลในสมัยที่เป็นเมืองขึ้นของอังกฤษ สร้างด้วยอิฐทั้งหลัง สวยงามเลยทีเดียว

หอคอยตรงกลางซึ่งสูง 41.2 เมตรนั้นจะมีนาฬิกาซึ่งเริ่มใช้ครั้งแรกในการแสดงพาเหรดในงานพระราชสมภพของ Queen Victoria ในปี 1897
ส่วนหัวของทั้งหอคอยตรงกลางและข้าง ๆ อีกสองนั้นทำด้วยโลหะทองแดง และหลังจากที่สถานที่ราชการได้ย้ายออกไปในปี 1974 อาคารแห่งนี้ถูกตกแต่งใหม่ให้เป็นสถานที่ของกระทรวงยุติธรรม

DSC03933

มองแบบหน้าตรงบ้าง

DSC03940

เผอิญว่าวันนั้นมีนิทรรศการมรดกโลกอยู่ภายในตึกซึ่งเปิดให้คนทั่วไปเข้าชมกัน แล้วไฉนพวกเราจะพลาด

DSC01264

ภายในก็จะแนะนำสถานที่มรดกโลกต่างๆในมาเลเซียพร้อมประวัติ หนึ่งในนั้นคือ ยอดเขาคินาบาลู ที่สูงที่สุดในอาเซียนนั้นเอง

นายแบบเรารีบไปยืนแอ๊คทันทีประหนึ่งพิชิตยอดเขามาแล้ว

DSC01267

พลาดไม่ได้ก็ที่นี่ มะละกา ที่พวกเราเพิ่งจากลากันมาเมื่อวานนี้เอง

DSC03948

นอกนั้นก็ไม่มีอะไรมาก เป็นนิทรรศการสั้นๆ เดินตากแอร์กับเพลินๆอยู่ 2 คน โรแมนติกซะไม่มี

ออกมาเก็บภาพต่อท่ามกลางแดดอันร้อนแรง

DSC03952

ไม่ถึง 2 ชั่วโมงก็เดินกันครบ เลยตัดสินใจนั่งรถกลับไป Bukit Bintang เดินเล่นแถวนั้นรอเวลา

แต่ด้วยอากาศที่ร้อนจัด แถวนั้นก็กำลังก่อสร้างอะไรหลายอย่างมาก เดินข้างนอกลำบาก ฝุ่นควันเยอะไปหมด เลยตัดสินใจสิงสถิตย์อยู่ในห้าง LOT10 กัน

ที่นี่มีช็อป Liverpool FC ด้วย คุณสำลีแทบจะสลาเข้าไป

DSC03958

รู้สึกหิวน้ำเลยเดินลงไปที่ศูนย์อาหาร แต่ดันจัดมาชุดใหญ่ อิอิ

บะกุดเต๊น้ำดำ ในที่สุดก็ได้กิน แต่ฉันรู้สึกว่าชอบน้ำขาวที่สิงคโปร์มากกว่าแฮะ

DSC01278

บะหมี่หมูแดง อร่อยดี

DSC01279

ถึงจะค่อนข้างแพงแต่ก็ถึงว่าเป็นมื้อที่อร่อยที่สุดในมาเลเซีย กรี๊ดกร๊าดมาก ในที่สุดดดดด

หลังจากอิ่มหน่ำสำราญก็ถือโอกาสเดินย่อย แวะไปเยี่ยมเยียนห้าง Pavilion ที่ถือว่าไฮโซที่สุดในย่านนั้น การออกแบบเหมือน Paragon บ้านเราเป๊ะเด๊ะ

DSC03963

Capture2

http://www.lcct.com.my/images/rail/klia-transit-to-lcct-route.png

เดินเล่นซักพักก็ได้เวลาไปเอากระเป๋าที่โรงแรมและมุ่งหน้าไปสนามบิน โดยนั่งรถไปลงที่สถานี KL Sentral แล้วจะมีรถต่อไปสนามบิน LCCT สามารถเลือกที่จะไปโดยรถไฟฟ้า KLIA Transit ที่มีข้อดีคือประหยัดเวลา และกะเวลาได้แน่นอน คือประมาณ 30 นาที แต่ค่าโดยสารก็มหาโหดเหมือนกัน คืออยู่ที่ 35 rm ต่อคน

อึกทางเลือกหนึ่งคือไปโดยรถบัส ที่ขึ้นรถจะอยู่ชั้นใต้ดินของสถานี KL Sentral มีผู้ให้บริการ 2 เจ้า Sky bus กับ Aero Bus ในราคาประมาณคนละ 10 rm เท่านั้น ข้อเสียคือใช้เวลาเยอะกว่าคือประมาณ 1 ชั่วโมงหรือมากกว่าตามสภาพการจราจร

พวกเราที่มีเวลามากเงินน้อย ก็ต้องเลิกไปโดยรถบัสอยู่แล้ว

IMG_5185

หลังจากหาของกินงุ้งงิงที่สนามบินเรียบร้อยแล้วก็ได้เวลาขึ้นเครื่องกลับสิงคโปร์แล้วววว แต่แอบเสียดายที่น่าจะลองกินอาหารบนเครื่องบินซักหน่อย

IMG_5193

สรุปค่าใช้จ่ายทั้งหมดในมาเลเซีย

Capture3

พอสรุปมาจริงๆมันเยอะเหมือนกันวุ้ย แค่ 3 วัน 2 คืน ซัดไป 7,273 บาท กรี๊ดดดดดดด

ภาพรวมของการเที่ยวมาเลเซียครั้งแรก บอกตรงๆกลับมาแล้วไม่ค่อยประทับใจ อาจเป็นเพราะเหมือนกรุงเทพมากเกินไป ร้อน ฝุ่นเยอะ มีแต่การก่อสร้าง และไม่ค่อยมีสถานที่อะไรดึงดูดใจ คนก็ไม่ nice ไม่ยิ้มแย้ม อาหารไม่อร่อย เฮ้อออออ

แต่สิ่งหนึ่งที่เกินคาดคือ LEGOLAND เพราะเอ็นจอยเกินกว่าที่คิดไว้ แม้จะร้อน แต่คนไม่เยอะ และเครื่องเล่นก็น่ารัก สร้างสรรค์ ย้อนวัยดี ชอบๆ

แล้วก็ต้องขอบคุณฟ้าฝนที่กลั้นใจไม่ตกอยู่ 3 วันเต็มๆ เพราะแม้จะร้อนหน่อย แต่ก็ทำให้การเดินทางสะดวกขึ้นเยอะ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

*