Turkey ทริปนี้ที่ฝันไว้ ตอนที่ 4: Ephesus เมืองโบราณของเหล่าทาสแมว

Highlight ของวันนี้ จัดไป

DSC05240

DSC05223

DSC02390

DSC05208

DSC05195

DSC02357

DSC05376

DSC05402

ตารางเที่ยวเรียบง่ายแต่แอบตื่นเต้นตรงการเดินทางเปลี่ยนเมืองเนี่ยแหละ

15 Feb 2015

ตารางเที่ยว

ตื่นเช้าเปลี่ยนเสื้อผ้า (เดี๋ยวนี้น้ำท่าไม่อาบแล้ว อิอิ) ลงมาเช็คเอ้าท์ (เสียเงินเพิ่มค่าน้ำเปล่าขวดลิตรไป 2.5 TL) และฝากกระเป๋าไว้

ได้เวลาอาหารเช้า ห้องอาหารตกแต่งได้สวยมั่ก

DSC05138

มาดูไลน์อาหารกันก่อน เริ่มด้วยโปรตีน

DSC05131

เหล่าขนมปังและมะกอกดอง

DSC05130

โยเกิร์ต ชีส ผักแก้เลี่ยน (มะเขือเทศที่นี่ไม่อร่อยแบบผิดคอนเซ็ปต์ตุรกีมาก)

DSC05128

เรียบหรู อบอุ่น และอิ่ม

DSC02338

วันนี้ลองโยเกิร์ตสไตล์ตุรกี 2 แบบ แบบแรก (ซ้าย) เป็นโยเกิร์ตของโรงแรมกินกับผลไม้ อันนี้ค่อนข้างปลื้ม (ขวา) โยเกิร์ตยี่ห้อดัง ที่ไปที่ไหนก็ต้องเห็นคนกิน จริงๆดื่มมากกว่า เพราะมันเหลวมากเปิดแล้วกระดกเอาได้เลย มักขายเป็นเซ็ตคู่กับเคบับหรืออาหารอื่นๆ เลยคิดว่ามันต้องอร่อยแน่ๆ

ผลปรากฎว่า กินไปได้ 1 คำ เลิกเหอะ เค็มมาก นี่มันโยเกิร์ตรสเกลือหรืออย่างไร

IMG_6468-horz

กินเสร็จก็ได้เวลาสำรวจโรงแรมก็ออกผจญภัยเช่นเคย

ข้างหลังเป็นสวนเล็กๆน่ารัก

DSC02342

มีต่อไปอีกตึก แสดงว่าช่วง high season ต้องมีคนมาพักเยอะมาก แต่ช่วงนี้น่ะหรอ นึกว่าอยู่กันสองคนไม่รวมครอบครัวเจ้าของ

DSC02341

ไปถามทางเจ้าของโรงแรมมา มาดามบอกว่าให้เดินไป Otogar ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟเมื่อวาน จะมีรถ minibus สามารถขึ้นได้ทั้งแบบ direct คือไป Ephesus โดยตรง หรือจะขึ้นรถที่ไป Kudasai แล้วขอเค้าลงกลางทาง (วิธีนี้ไม่ค่อยแนะนำเพราะจริงๆต้องเดินอีกไกลเลย)

ลุ้ยยยยย

DSC02345

เดินไปประมาณครึ่งกิโลก็เจอ Otogar

DSC02347

ป้ายรถเด่นมาก เดินไปรอมันตรงนั้นแหละ

ระหว่างนั่งรอเจอคนไทยด้วยกัน มาเที่ยวคนเดียว 19 วัน รัสเซีย ตุรกี จอร์เจีย งบ 30,000 บาทไม่รวมตั๋ว (เพราะเป็นพนักงานการบินไทย) ฟังแล้วก็อึ้งอ่ะ ของเรา 11 วันอยู่ที่ตุรกีอย่างเดียวถ้าไม่รวมตั๋วยังไงก็เกินแน่ๆ กลับมาแล้วอย่าลืมมารีวิวเคล็ดลับนะค้าา

รถกว่าจะมาช้ามาก รอประมาณ 20 นาที

DSC02350

ดีใจที่รถมาซักที กระโดดขึ้นรถโดยพลัน ค่าโดยสารส่งถึง Ephesus คนละ3.5 TLถ้วน

DSC02352

พอมาถึง พวกเราก็กระโดดลงจากรถ เดินเริงร่าไปหาเมืองโบราณด้วยความตื่นเต้น คนขับรถต้องตะโกนบอกว่าขากลับให้มารอขึ้นรถเข้าเมืองที่เดิมนะ ได้เลยเพ่

ส่งสมุนไปซื้อบัตรมาล่ะ สนนคนละ 30 TL

เวลาทำการ: 8.00 – 19.30 ตั๋วรอบสุดท้่าย 18.30

ชอบบัตรเข้าสถานที่ท่องเที่ยวของที่นี่มาก standardise ได้เหมือนกันทั้งประเทศ

DSC02355

แผนที่คร่าวๆ

Capture

จงจำไว้ว่า อันดับแรกที่ควรจะทำในการมาเที่ยวชม Ancient City of Ephesus คือการเข้าห้องน้ำ เพราะมันจะมีอยู่แค่ที่ทางเข้า ที่เหลือก็ตามซอกหินแล้วล่ะ

ฝูงก้อนขนจำนวนมากหน้าห้องน้ำ มีหลากสี หลากสไตล์ให้เลือกพินิจ

DSC05152

เหล่าทาสแมวทั้งหลาย จงยอมจำนนแก่ข้าซะโดยดี

DSC05153

ถ้าคนรักแมวมานี่หลงอยู่แถวหน้าห้องน้ำนี่แหละ ไม่ได้ไปไหน ส่วนเราไม่ได้ถูกโรคกับน้องแมวมากสามารถก้าวฝ่าฝูงแมวไปลุยต่อ

DSC02357

อย่างแรกที่เจอคือ Milestone หรือหินบอกระยะทางระหว่างเมืองโรมัน ถ้าสมัยนี้ก็คือหลักกิโลนั่นเอง จะใช้สีแดงสลักว่าเพื่อให้สังเกตง่าย หน่วยที่ใช้วัดคือ milla passuum หรือพันก้าว (โคตรเท่) นอกจากข้อมูลทางระยะทางแล้ว บางทีก็มีชื่อจักรพรรดิ์ที่ทรงสร้างหรือบำรุงถนนนั้นๆสลักไว้ด้วย

DSC05158-horz

ถัดมาไม่ไกลนัก คือ The Harbour of Ephesos เป็นถนนที่เชื่อมเมืองต่อกับอ่าวเพื่อทำการค้า สาเหตุหลักของความเจริญรุ่งเรืองของเมืองอิฟิซุส

DSC05168

สุดถนนอีกฝั่งคือ The Theatre Gymnasium คล้ายๆกับสเตเดียมในปัจจุบัน ดูคนเล่นกีฬาอะไรแบบนี้

DSC05163

ปีนป่ายกันขึ้นมาข้างบนจนได้ในที่สุด จะเห็นถนนทอดยาวไปจนสุดทางขวามือ นั่นคือ The Harbour of Ephesos เมื่อกี้ แต่สงสัยว่าอ่าวอยู่ไหน หรือว่าน้ำมันเหือดไปหมดแล้วหนอ

DSC05195

ที่นี่คนไม่เยอะมากเหมือนในรีวิวช่วง High Season ที่เคยเห็นๆมา แต่ก็ไม่ร้างเท่า Hierapolis & Pamukkale เมื่อวาน อันนั้นทั้งเมืองเหมือนมีอยู่แค่สองเรา

วิวจากคนแสดงบ้าง

DSC05183

ก้อนขนประจำยิมเนเซียม

DSC05179

ถัดลงมาจากยิมเนเซียมเล็กน้อย จะเจอ Commercial Agora หรือตลาดศูนย์กลางการค้า คงประมาณตลาด อ.ต.ก. อะไรแบบนี้ เป็นตลาดพื้นที่ขนาดใหญ่่ เสาตั้งเรียงราย

DSC02380

เดินผ่าน Marble Street หรือถนหินอ่อน ก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่ามันเป็นหินอ่อนจริงหรือไม่ เพราะมันไม่เห็นเหมือนหินอ่อนที่เคยเห็นในปัจจุบัน

DSC05207

และแล้วก็มาถึงทีเด็ดที่พลาดไม่ดร้ายยย ไม่งั้นจะถือว่ามาไม่ถึง Ephesus นั่นก็คือ The Library of Celcus

DSC05208

หอสมุดแห่งเซลซุส มีเสาค้ำยัน 8 ต้น มีรูปปั้นเทพี 4 พระองค์ ได้แก่ โซเฟียร์ (ความเฉลียวฉลาด), อะราเต้ (คุณธรรม), เอนโนเอีย (สติปัญญา) และ เอพิสเทเม่ (ความรู้)

DSC05228

มา low season มันดีแบบนี้ ซัดไปหลายช็อต

DSC02390

ฟ้าฝนก็เป็นใจ งามแต๊

DSC05223

ฟินสุดๆ

DSC05240

ทางเชื่อมต่อไป Commercial Agora เมื่อกี้

DSC05242

ก้อนขนเฝ้าหอสมุด

DSC05244

สำหรับใครที่ไม่มีปัญญาจ้างไกด์หรือไม่ได้ไปกับทัวร์ก็ไม่ต้องกังวลไป มีป้ายบอกอธิบายทุกจุด หรือจะเนียนไปฟังๆจากไกด์แถวนั้นก็ได้นะ อิอิ

DSC02386

นี่มันทริปถ่ายแมวใช่ไหม

DSC02402

The Latrine ส้วมสาธารณะ มีที่นั่งเป็นรูให้ปลดทุกข์ มีน้ำไหลผ่านตลอดเวลา ตามตำนานเล่าว่า หนุ่มสาวมันมานั่งขรี้และจีบกันที่นี่ เอิ่ม อีกตำนานหนึ่งบอกว่า เพราะหินมันเย็น เวลาผู้ดีเค้าจะมาปลดทุกข์กัน จะต้องมีคนมานั่งวอร์มให้มันอุ่นก่อน ผู้ดีถึงจะขรี้ได้โดยสะดวกโยธิน ฟินแท้

DSC02405

The temple of Hadrian อยู่ไม่ไกลจากห้องน้ำ เป็นวิหารที่สวยมากแห่งหนึ่ง ลวดลายใต้หลังคาเป็นตำนานการสร้างเมือง และยังสลักรูป เทพเจ้า เทซซ์ (tyche) เทพเจ้าประจำเมืองด้วย

DSC05258

Curetes Street เป็นถนนที่ห้อมล้อมไปด้วยสิ่งก่อสร้างน่าสนใจตั้งอยู่รอบทั้งสองฝั่ง ส่วนตัวคิดว่าเพราะสิ่งก่อสร้างเหล่านี้อยู่ติดกัน ไม่ได้เดินไกลมากเหมือน Hierapolis ทำให้ Ephesus เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวมากกว่า

DSC05306

The Scholastikia Baths เป็นห้องอาบน้ำ Scholastikia เป็นคนบูรณะ เลยมีรูปปั้นอยู่ แต่ศรีษะหายไปแล้ว โอ้วหลอน

DSC05261

The Memmius Monument เป็นหลานชายของคุณปู่ซุลล่า นายพลผู้เรืองอำนาจของโรมันสมัยนั้น

DSC05276

Odeon or Bouleuterion ใช้เป็นที่ประชุมสภาพลเรือน การแสดงดนตรี ละคร จุคนได้ 1400

DSC02426

หยุดพักกินขน เจ้าก้อนขนมิวายมาอ้อนกินด้วย

DSC02433

The Fountain of Pollio

DSC05298

The Heracles Gate ประตูเฮราคลิส หรือ เฮอคิวลิส ด้านหน้ามีรูปปั้นเฮราคลีส 2 รูป ห่อด้วยอาภรณ์หนังสิงโต

DSC05303

ผ่านทุ่งดอกไม้งามๆ

IMG_6512

ก่อนกลับแวะไป The Church of Mary โบสถ์พระแม่มารี โบสถ์แห่งแรกของโลกที่สร้างขึ้นถวายพระแม่มารี การประชุมสภาคริสตจักรครั้งที่ 3 ก็จัดที่นี่ เลยเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า The Council Church

DSC05322

ละอายใจเล็กน้อยตรงที่ว่าลืมศึกษาเกี่ยวกับโบสถ์พระแม่มารีไปก่อน ไปถึงก็ยืนงงๆบ่นกับคุณสำลีว่า ซากอะไรหว่า ถ่ายรูปแชะๆแล้วเดินออก ระหว่างรอรถเอาโพยขึ้นมาดูถึงกับตะลึง ขอกลับไปถ่ายรูปมาใหม่ได้ไหมอ่า 555 นี่แหละน้า ศึกษาไปยังไงก็ไม่พอ

ออกมาเห็นน้ำทับทิมขายอยู่มันเปรี้ยวปากเลยจัดซัก 1 แก้ว 5 TL เปรี้ยวสมใจเลย

DSC02447-horz

กลับมายืนรอรถอยู่ที่เดิม จะมีคนคุมคิวรถ ให้บอกเค้าว่าจะกลับ Otogar เพราะมันมีรถไปทางอื่นด้วย เดี๋ยวขึ้นผิด

DSC02449

รอไปอีกสิบกว่านาที รถก็มาในที่สุด

DSC02450

ตอนแรกว่าจะไปสนามบินโดยรถไฟ แต่รอบเวลามันเร็วไป ต้องไปแกร่วที่สนามบินอยู่ตั้งนาน เลยตัดสินใจไปถามที่ Otogar ว่ามีรถไป Izmir Airport ไหม ซึ่งมีหรือที่จะไม่มี เราเลยได้เวลาเที่ยวในเมืองเพิ่มอีกนิดนึง

เลยเที่ยงมานาน ได้เวลาหาอะไรใส่ท้อง เดินไปเดินมาเห็นร้านนี้น่ารักดี เลยเข้าไปลองดู

DSC02453

อาหารถือว่าถูกและเยอะแต่ไม่อร่อย มีแค่ 2 เมนูให้เลือกสรรเท่านั้น คือ meat ball

DSC02461

และ beef kebab

DSC02460

ทั้งคู่จานละ 8 TL มาพร้อมออเดิร์ฟ สลัดมะเขือเทศ 1 จาน

DSC02457

เสร็จของคาว ก็ได้เวลาหาของหวานกิน ได้แมกนั่มรสทัมทิมจากร้านขายของชำแถวนั้นในราคา 2.5 TL

DSC02462

เนื่องจากยังมีเวลา คุณสำลีซึ่งรับผิดชอบในการหาข้อมูลของเมืองนี้ เลยพาเที่ยวต่อ

ไกด์จำเป็นของเราจะพาทุกท่านไปชม Ayasuluk Castle ซึ่งเป็นปราสาทที่พวกเราเห็นอยู่บนเนินเมื่อวาน

ไกด์บอกว่า จะต้องผ่าน Gate of persecution หรือประตูแห่งการประหัตประหาร สร้างในสมัยไบเซนไทน์ มีงานสลักลวดลายกรีก เป็นภาพฮีโร่ที่ชื่ออาชิลิอุส (แอบสงสัยว่ามั่วป่าววะ อ่ะ ตามน้ำๆ)

DSC02467

สนนราคาเยี่ยมชม คนละ 10 TL

DSC02470

ถัดจากประตูเป็นโบสถ์ที่สร้างขึ้นบนหลุมศพของเซนต์ จอห์น

DSC02475

ตอนนี้ไกด์เริ่มแต่งเรื่องมั่วขึ้นมาซัก 70% ไม่รู้ว่าจริงหรือไม่จริง

DSC02474

เอาวิวไปดูแทนละกันเนอะ

DSC05367

วิวสวยดี เลยอภัยความมั่วของไกด์ได้

DSC02471

สิ่งที่อยากมาดูจริงๆคืออันนี้ Ayasuluk Castle

DSC05376

แวะถ่ายวิวมุมกว้าง panorama เว่อร์ชันกล้อง iPhone

IMG_6519

ไปชมปราสาทกันต่อเลย

DSC02484

Ayasuluk Castle บ้างก็เรียก Ayasuluk Fortress เป็นปราสาท & ป้อมปราการตั้งอยู่บนสุดของ Ayasuluk  Hill สร้างโดยเจ้าชายอาหรับชื่อเอดิน

Castle Mosque มัสยิดประจำปราสาท

DSC05381

ส่องจากนอกมัสยิดออกมา

DSC05389

Basilica Cistern อ่างเก็บน้ำ

DSC05394

ข้างในอ่างเก็บน้ำ ยังมีน้ำอยู่บ้าง

DSC05396

ในที่สุดก็ปีนมาถึงยอดปราสาท

DSC05384

วิวกินขาด ลมก็เย็นดี

DSC05398

นั่งแช่อยู่ ไม่อยากลุกไปไหน มันสบายตาสบายใจจริงๆ

DSC05402

นั่งชมวิวสักพักก็ถึงเวลากลับ ฉันเถียงกับคุณสำลีว่า มันมีอีกทางที่ขึ้นมาแล้วไม่เสียเงิน เลยเดินมั่วๆลงไปอีกทาง แต่มันเป็นทางตัน เงิบ

สักพักก็ได้ยินเสียงใครเรียก ปรากฏว่าเป็นเด็ก 2 คน เรียกให้ตามไป เดี๋ยวพาออกเอง

DSC02502

พวกเราก็มึนๆ เดินตามมันไปอีก

DSC02503

เฮ้ย เอางี้เลย

DSC02504

สุดท้ายโดนไถ่เงิน 5 TL ค่าพาออก คุณสำลีอึ้งไปเลย ฉันตั้งสติได้ก่อน บอก I don’t have money but I have chocolate แล้วหยิบขนมที่ซื้อมาเมื่อกี้ยื่นให้อันหนึ่ง ไอเด็กโตบอก จะเอาทั้งหมดที่มี เออ ก็ได้วะ ขนมหนู T^T

จากสภาพความเป็นอยู่ละแวกนั้นรู้เลยว่าทำไมเด็กพวกนี้ถึงต้องมาไถ่เงินนักท่องเที่ยว

DSC02506

กลับไปเอากระเป๋าที่โรงแรมเพื่อต่อรถบัสไปสนามบิน Izmir ระหว่างนั้นคุณสำลีที่บ่นๆว่าเจ็บเข่า เกิดเดินไม่ไหว เลยต้องนั่งพักกันอยู่กลางทาง อีก 5 นาทีจะได้เวลารถออกแต่ยังเหลืออีก 200 เมตรกว่าจะถึง Otogar

ตอนนั้นฉันคิดว่าจะแบกกระเป๋าของตัวเองไปฝากไว้ก่อน แล้วค่อยกลับมาแบกกระเป๋าคุณสำลีไปอีกรอบ แต่พ่อคุณก็บอกว่าไหวแล้วลุกขึ้นกัดฟันแบกกระเป๋าเดินกะเผลกไปจนถึง Otogar อาการน่าเป็นห่วงอย่างแรง มาถึงได้เวลารถออกพอดี

พระอาทิตย์กำลังจะตกดิน ฟ้าเริ่มมืด

DSC02520

แต่ที่นึกว่าเรื่องจบแล้ว ไอรถตู้มันดันมาปล่อยไว้กลางทาง แล้วบอกว่าเดินไปใกล้ๆก็ถึง หรือไม่ก็ต่อแท็กซี่ไปก็ได้ เอากระเป๋าพวกเราลงมากองริมถนนแล้วขับฟิ้วไปเลย พ่องงงง ไหนฟะสนามบิน คุณสำลีก็เจ็บอยู่ด้วย

DSC02527

ขณะที่กำลังงงอยู่ โชคดีที่มีผู้นำ (ที่โดนปล่อยลงมาด้วย) เดินนำไป

DSC02530

ที่มันบอกว่าใกล้ๆ ใกล้มากกกกกกกกกกก (ประชด) กว่าจะเดินมาถึงสนามบินเลยเอาเหงื่อแตก ดีนะที่มีผู้นำทาง ไม่งั้นหลงไปนานแล้ว แล้วอาคารผู้โดยสารขาออกอยู่หน๋ายยยย ฮือออออ

DSC02533

เดินไปมากกว่า 1 กิโลแน่นอน ในที่สุดก็เจอตึกจนได้

DSC02536

คุณสำลีเริ่มเดินไม่ไหว ก็หาช่อง Check-in ของ SunExpress เจอพอดี ฟิ้ว

DSC02540

Check in เสร็จ ภารกิจต่อไปคือหาร้านขายยาเพื่อซื้อผ้ายืดรัดขา แต่เภสัชดันพูดอังกฤษไม่ได้ แล้วก็ดันบอก no no ตรูก็ว่า no อะไร พอพยายามถามต่อ นางก็ทำเสียงเครียดตาดุตวาดเบาๆว่า no English คือตอนนั้นงงจริง คือนี่พวกเรามาซื้อในโซน International Departure นะเฟ้ย แล้วทำไมต้องดุกันด้วยเนี่ยยย วนเวียนอยู่ในร้านซักพักก็หาเองจนเจอ โดนไป 20 TL ถ้วน

DSC02542

อาหารเย็นวันนี้จัด Burger King มา 1 ชุด 28.5 TL คนป่วยพยายามฝึนร่าเริงเพื่อไม่ให้เป็นห่วง แง สงสาร

DSC02543

กินเสร็จเดินเข้าเกทไปรอไม่นานก็เรียกขึ้นเครื่อง ลืมบอกราคา ทริปนี้คนละ 22 EUR หรือประมาณ 880 บาท

DSC02548

เครื่องขึ้น มีเด็กร้องทั้งไฟลท์แต่ฉันก็หาได้แคร์ไม่ หลับสนิทจนถึง Kayseri Airport

คนเป็นล้านมายืนรอกระเป๋า ของพวกเรามาเป็นใบท้ายๆเลย

DSC02565

คราวนี้ถึงเวลาลุ้น ฉันตกลงกับทางโรงแรมให้จัดรถมารับจากสนามบิน Kayseri ตอนออกไปเห็นอยู่ 3 ป้าย ตื่นเต้นมาก ไล่อ่านชื่อทีละป้ายจนเจอชื่อตัวเองป้ายสุดท้าย แทบจะกระโดดเข้าไปกอดคนมารับ ถ้าหาไม่เจอนี่ยุ่งแน่ ด้วยคุณสำลีสภาพไม่เต็มร้อยแบบนี้ยิ่งอยากให้ถึงโรงแรมแล้วพักผ่อนให้เร็วที่สุด

คนขับรถพาพวกเราไปยังรถตู้ที่จอดรออยู่ มีคนอยู่เต็มคันนั่งรอพวกเราอยู่ คงกำลังด่าว่าช้าอยู่ในใจแน่ๆ เอิ๊ก

DSC02566-horz

รถออก เพิ่งตระหนักได้ว่า คนที่ตุรกีมีนิสัยขับรถซิ่งเหมือนกันทั้งประเทศ ไฟทางด่วนก็ไม่มี แม่เจ้า คือเห็นดาวได้ทั้งฟ้า แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น พี่แกเหยียบไปไม่ต่ำกว่า 120 จะ 140 ด้วยซ้ำ ฉันเลยบอกคุณสำลีว่าขอนอนก่อน ตรูกลัว

ด้วยอภินิหาร เราก็มาถึงโรงแรม Sultan Cave Suites ในเวลาเพียงครึ่งชั่วโมงเท่านั้น ระยะทางจากสนามบินประมาณเกือบ 80 กิโลเมตร

มาถึงก็เข้าฟัง Hotel Breifing กันก่อน เจ้าของอวดสรรพคุณใหญ่ว่าห้องอาหารที่นี่ขึ้นชื่อมาก Top 5 Top 3 อะไรก็ไม่รู้เลยจองกินมันซะเลย พนักงานโรงแรมก็จัดแจงนัดแนะเวลาขึ้นบอลลูนกับไปทัวร์พรุ่งนี้ และพาพวกเราไปยังห้องพักที่ได้จองไว้

DSC02573

สภาพภายนอกโดยรวม

DSC02578

มาถึงห้องแล้ว เข้าไปดูข้างในกัน

DSC02579

ห้องที่พวกเราเลือกไว้คือเบอร์ 308 เป็นห้องแบบถ้ำหิน คืนละ 60 EUR หรือ 2,250 THB ด้วยเรท 1 EUR = 37.5 THB ค่อนข้างใหญ่สมราคาพอสมควร

DSC02583

จากอีกมุม

DSC02584

ดูห้องน้ำกันบ้าง เล็กไปหน่อยแต่ก็โอเคอยู่

DSC02585-horz

อภินันทนาการจากโรงแรม

DSC02587

ดึกแล้วเลยรีบอาบน้ำนอน เตรียมเสื้อผ้าสำหรับวันพรุ่งนี้เพราะต้องตื่นเช้ามากไปขึ้นบอลลูนกัน ส่วนคุณสำลีกินยานอน หวังว่าพรุ่งนี้จะอาการดีขึ้น

ตอนหน้าขาวโพลนแน่นอน เตรียมตัวหนาวได้

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

*