Turkey ทริปนี้ที่ฝันไว้ ตอนที่ 0.2: เตรียมตัวท่องแดนไกล 2/2

อีกอึดใจเดียวจะได้ไปแล้วจ้า อย่าเพิ่งเบื่อการเตรียมตัวกันซะก่อน มาต่อกันเลย

6) อินเตอร์เน็ต…ขาดเธอเหมือนขาดใจ

ต้องยอมรับจริงๆเลยว่า อินเตอร์เน็ตเป็นสิ่งที่จำเป็นจริงๆ เพราะมันเป็นแหล่งความช่วยเหลือยามจำเป็นที่ยอดเยี่ยมที่สุดแล้ว ฉันชะล่าใจ เพราะคิดว่ายังไงทุกโรงแรมมี  wifi ให้ใช้ แล้วเราก็ไม่มีความจำเป็นต้องติดต่อกับใครมากนัก เลยตัดสินใจไม่เช่าหรือซื้ออะไรทั้งนั้น ซึ่งสร้างความยุ่งยากให้พอสมควร ขอแนะนำว่า ถ้าหาซื้อซิมการ์ดไม่ได้ ให้หาเช่า pocket wifi เอา ช่วยได้มากในด้านเส้นทาง โดยเฉพาะคนที่ตัดสินใจขับรถเที่ยวเอง หามาใช้เถอะถ้าไม่แพงมากจนเกินไป

7) ประกันการเดินทาง…เผื่อมีเซอร์ไพรส ประกันไว้อุ่นใจกว่า

DSC03390

 

จากทริปที่ผ่านๆมา ไม่เคยได้คิดถึงการซื้อประกันการเดินทางซักแว็บเดียว แต่พอดีมีพี่ที่รู้จักหลายๆคนเจอเซอร์ไพรส์ระหว่างไปเที่ยวแล้วเผอิญว่าซื้อประกันไว้ เลยโชคดีได้เคลม พี่เค้าก็แนะนำว่าให้ซื้อ เพราะฉันเดินทางโดยใช้เครื่องบินค่อนข้างเยอะ สิริรวมแล้ว 5 ไฟลท์ มีสิทธิ์ที่กระเป๋าจะดีเลย์หรือหายค่อนข้างสูง เผื่อว่าของหายอะไรหายด้วย เลยตัดสินใจซื้อๆไป เอาแบบราคาต่ำสุด ไม่นึกเลยจริงๆว่าจะได้ใช้ T^T

เวลาตัดสินใจซื้อประกัน ให้ลองพิจารณาถึงสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ เช่น
– ตัวเองหรือเพื่อนร่วมทริปไม่สบายทำให้ต้องยกเลิกที่เลื่อนทริปออกไป
– ไฟลท์ delay (ซื่งจะได้เงินคือ delay เกิน 6 ชั่วโมงขึ้นไป) หรือยกเลิก
– กระเป๋า delay หรือสูญหาย
– ทรัพย์สินโดนขโมยหรือสูญหาย
– บาดเจ็บหรืออุบัติเหตุอื่นๆ
– ฯลฯ

ที่สำคัญคือ ต้องพิจารณาความสะดวกเวลาเคลมด้วย คุณสำลีซื้อประกันแพงกว่าฉันเท่าตัว (ขนาดซื้อที่ไทยเพราะต้องซื้อกับประเทศต้นทาง) เหตุเกิดแล้วจะมาเคลม โอย พี่แกให้เคลมทางไปรษณีย แม่เจ้า มันสมัยไหนแล้ววววว

อีกอย่างคือ เวลาเกิดเซอร์ไพร์สเหล่านี้ขึ้นจริงๆอย่าลืมขอหลักฐานมาด้วย เช่นถ้ากระเป๋า delay ต้องมีหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษรจากสายการบิน ของหายต้องไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ เป็นต้น ถ้าหาสายการบินมันไม่ให้จริงๆ จงถ่ายรูป monitor ที่มี flight status มา หาข่าวที่เกี่ยวข้องที่ทำให้เครื่องบิน delay หรือถูกยกเลิกไว้ได้เลย ได้ใช้แน่นอน

เสริมเล็กน้อยๆ เพื่อเตรียมรับสถานการณ์กระเป๋า delay เนื่องจากมีการต่อเครื่อง พยายามวางแผนให้คืนแรกยังพักอยู่ที่เมืองต้นทาง เผื่อว่ากระเป๋าตามมาอีก 1 วันให้หลังจะได้มาส่งที่โรงแรมในเมืองนั้นๆได้ และเอาเสื้อผ้าอุปกรณ์กันหนาวติดไปพอใส่ 1 วันกับกระเป๋าเล็กที่เอาขึ้นเครื่องไปด้วย จะได้ไม่ต้องเสียเวลาเที่ยวไปเดินหาซื้อเสื้อผ้าใหม่ ประหยัดทั้งเงินและเวลาเด้อ

8) จัดกระเป๋า…All my bags are packed, I’m ready to go

luggage stuffing

Source: http://smartwomentravelers.com/

ดูเหมือนง่ายแต่จัดกันเป็นเดือน (อะไรมันจะขนาดน้านนน) ที่นานเพราะไม่เคยไปเมืองหนาวขนาดติดลบมาก่อน ไม่แน่ใจว่าควรจะใส่อะไรดี แค่ไหน เท่าไหร่ แถมยังจะไปเล่นสกีอีกต่างหาก เลยต้องหาข้อมูลและซื้อทุกอย่างใหม่หมด พักเรื่องอุปกรณ์กันหนาวไว้ก่อน มาดูของใช้พื้นฐานก่อน บางอย่างก็แบ่งกันเอาไปกับเพื่อนร่วมทริปได้ บางอย่างอาจไม่จำเป็น ขึ้นอยู่กับสถานที่และช่วงเวลาที่เราจะไปค่ะ

a. Very Important Stuff

  • Passport & Copy of Passport – ปริ๊นท์ฉบับคัดลอกไปด้วยจ้า เผื่อทำหล่นหายที่ไหนจะได้กลับประเทศได้
  • เงินสด – จงแลกไปตามที่คำนวณไว้เมื่อกี้
  • บัตรเครดิต – เผื่อเงินสดหมด
  • E-ticket/boarding pass
  • หลักฐานจองโรงแรมทุกแห่ง
  • นามบัตร – พกไว้ไม่เสียหลาย เผื่อถูก ตม. ดัก โดยเฉพาะหญิงไทย แอบเซ็งแต่ก็ต้องยอมรับชะตากรรม
  • ID Card/Work Permit
  • Travel Insurance
  • แผนการเดินทาง – ปริ๊นท์ไปหลายๆฉบับเลย เผื่อหาย
  • ปากกา – เอาไว้กรอกเอกสาร จดนู่นนี่

b) เสื้อผ้า

  • เสื้อ – ใครไปเมืองหนาว ไม่ต้องเอาไปเยอะหรอก ใส่ซ้ำไปก็ไม่มีใครสังเกตเพราะใส่เสื้อกันหนาวอยู่ตลอดเวลา ฉันใส่ซ้ำจนคุณสำลีค่อนแคะว่าซกมก เชอะ
  • กางเกง – อันนี้ซ้ำไป 4 วันรวด ก๊ากกก
  • เสื้อใน/กางเกงใน – อันนี้ลืมแล้วยืมบ่ได้ สำหรับกางเกงในใครมีไม่พอก็ไปซักเอากลางทริป แต่ถ้าไม่มีเวลาและต้องเปลี่ยนโรงแรมทุกวันก็ขนไปเถอะ มิฉะนั้นอาจจะเน่าได้
  • ชุดนอน

c) อุปกรณ์ที่ใช้ในห้องน้ำ & แต่งตัว

  • ยาสระผม/ครีมนวดผม/สบู่เหลว – จริงๆทุกโรงแรมมีให้อยู่แล้ว แต่ถ้ากลัวรับกลิ่นไม่ได้ ไม่คุ้น ก็ขอให้จงแบกไปเอง
  • ยาสีฟัน/แปรงสีฟัน
  • โฟมล้างหน้า
  • เครื่องสำอาง
  • โรลออนและสเปรย์ระงับกลิ่นกาย
  • ลิปมัน/ครีมทาผิว – ย้ำว่าสำคัญมากกกกกกก สำหรับคนไปเมืองหนาว อากาศมันแห้งงง ได้ใจจริงๆ
  • ทิชชู่/ทิชชู่เปียก – เผื่อไว้ว่าไม่มีน้ำให้ฉีดก้นเวลาปลดทุกข์
  • ที่ผูกผม/เจลแต่งผม
  • มีดโกนหนวด/มีดกันคิ้ว/กรรไกรตัดเล็บ – ห้ามเอาขึ้นเครื่อง โหลดโลด
  • แว่นตา/คอนแทคเลนส์/น้ำยาทำความสะอาดคอนแทคเลนส์
  • ผ้าอนามัย
  • ครีมกันแดด

d) ยา

  • แก้ปวด/แก้แพ้/แก้ไข้
  • ท้องอืด/ยาถ่าย
  • คลายกล้ามเนื้อ/ยานวด
  • ยาหม่อง/แซมบัค
  • วิค (คัดจมูก)
  • ยาแดง/พลาสเตอร์
  • น้ำตาเทียม
  • ยาอม/หมากฝรั่ง (ไว้ตอนขึ้นเครื่อง) – เศร้ามาก หาซื้อหมากฝรั่งไม่ได้ในสิงคโปร์ ต้องไปซื้อที่อินโดนีเซียแล้วแอบลักลอบนำเข้าประเทศ
  • ผ้ายืดสำหรับรัดเข่า แขน – อันนี้เผื่อไว้สำหรับคนที่ไปแบบ backpack ต้องแบกกระเป๋าหนักๆ เผื่อแข้งขาอักเสบ (เพราะเราไม่ได้พกกันไป ฉุกละหุกมาก)

e) อื่นๆ

  • เป้ใบเล็กแบบ daypack
  • ถุงพลาสติกใส่เสื้อใช้แล้ว
  • กระเป๋าคาดเอว ใส่ passport และเงินสด
  • ปลั๊กพ่วง/หัว converter
  • กล้องถ่ายรูป/แบตสำรอง/เมมสำรอง/ขาตั้ง/ที่ชาร์ต
  • ไฟฉาย/ร่ม/แว่นตากันแดด (แล้วแต่สถานที่และกรณี)
  • โทรศัพท์มือถือ/ที่ชาร์ต/powerbank

f) อุปกรณ์กันหนาว

ต้องรีวิวกันยาว เลยเอามาไว้สุดท้าย หมวดนี้เป็นหมวดที่ยากที่สุดแล้วสำหรับมนุษย์เมืองร้อนอย่างฉันที่วันๆใส่แต่เสื้อยืดและขาสั้น เคยชินแต่อุณหภูมิระดับไขมันแทบละลาย เลยต้องหาข้อมูลแบบพลิกปฐพี จนไปเจอกระทู้ในพันทิพที่เกี่ยวกับเสื้อผ้าเมืองหนาวโดยเฉพาะกระทู้นี้ How to live : How to cloth : ในอุณหภูมิติดลบ ร่วมกับความรู้ได้จากพี่ๆน้องๆที่เคยใช้ชีวิตแบบ(อุณหภูมิ)ติดลบมาก่อนแและความรู้ที่แอบไปถามมาจากคนขายเสื้อผ้าและอุปกรณ์กันหนาว ที่ช่วยชีวิตน้อยๆของฉันและคุณสำลีไว้ ต้องขอบพระคุณเป็นอย่างสูง

สำหรับคนที่เตรียมไปหนาว (ถ้าจะไปตุรกีฤดูร้อนขอให้ผ่านไปได้เพราะมันร้อนตับแตกเยี่ยงที่ไทยยังไงยังงั้น) ขออัญเชิญให้ท่านรู้จักกับการแต่งกายแบบ Layer Up นั่นก็คือแต่งหลายๆชั้นนั่นเอง เนื่องจากพอเข้าที่อุ่นหรือไปไหนที่อากาศอุ่นขึ้นจะได้เลือกถอดออกได้บางชั้น

ชั้นแรก Baselayer

เป็นชั้นที่ใส่ถัดจากเสื้อในและกางเกงใน จะเรียก long john/long underwear/thermal underwear ก็ได้ ชั้นนี้สำคัญมว๊ากกกกกกกเพราะจะช่วยเก็บความร้อนของร่างกายไว้ บางคน(และฉัน)คิดว่ายิ่งหนายิ่งอุ่น แต่จริงๆไม่ใช่นะ บางๆก็อุ่นได้ แล้วแต่เทคโนโลยีที่ใช้ แนะนำว่าใช้บางๆดีกว่า ระบายอากาศได้ดีแถมเคลื่อนไหวได้คล่องตัวกว่าด้วย

สำหรับผู้ที่มีงบค่อนข้างเยอะ ขอแนะนำ The North Face และ Columbia 2 ยี่ห้อหลักที่รับประกันความอุ่น แต่อาจทำให้ท่านกระเป๋าฉีกได้เช่นกัน เพราะแค่เสื้อก็ปาไปพันกว่าเกือบ 2 พันก็มี นี้ยังไม่รวมกางเกง แต่คิดดูว่าถ้าไปสิบวันขึ้นอาจจะต้องใช้ 2 ชุดสับเปลี่ยนกันไป โอ้ววว

อีกทางเลือกของผู้ไม่มีอันจะกิน คือประมาณแค่ซื้อตั๋วเครื่องบินได้ก็บุญแล้วอย่างพวกเรา ขอแนะนำให้รู้จัก Uniqlo แบรนด์จากญี่ปุ่นที่มาพร้อมกับโปรโมชั่นและราคาย่อมเยาว์ เทคโนโลยีที่ใช้เรียกว่า Heat Tech ซึ่งถือว่าอุ่นใช้ได้ ราคาไม่แพงมากตอนลด ตกอยู่ที่ 375-500 บาท มีให้เลือกซื้อหลายทรงหลายสี

week35_L3cover_W_heattech

Source: http://thisisbd.com.au/category/retail

ชั้นที่สอง เสื้อธรรมดา อันนี้รู้กันนะคะ ขอผ่าน

ชั้นที่สาม เสื้อขนเป็ด (Down Jacket)

เสื้อขนเป็ด หรือที่เรียกกันว่า down jacket แต่ฉันเรียกมันว่าเสื้อมิชลิน เพราะใส่แล้วเหมือนมาสค็อตโฆษณายางรถยนต์ เป็นตัวการความอุ่นที่สำคัญ วันแรกๆของทริปยังชะล่าใจไม่ใส่ชั้นนี้ ผลปรากฎว่าเดินสั่นกันเลยทีเดียว พกไปไม่เสียหลาย เพราะสามารถม้วนเก็บได้ มีให้เลือกซื้อหลายยี่ห้อ ถ้าเป็น The North Face หรือ Columbia ราคาเฉลี่ยจะอยู่ที่ 8,000 – 12,000 บาท แต่อุ่นและบางจริงแบบตัวเดียวแทบจบ แค่อาจจะต้องใส่กันลมอีกซักหน่อย งบน้อยอย่างเราเลยได้แต่สอบถามราคาและเดินจากไป กระซิก ตัวที่เราสอยมาจาก Bossini ในช็อปที่สิงคโปร์ เนื่องจากมีโปรโมชั่นลดเหลือประมาณตัวละ 1,500 บาท เลยเสร็จโก๋

FW14-523001020_01_large_95-horz

Source: http://www.bossini.com/en/90%7C10-Light-Down-Jacket/FW14-523001020-95-004.html

เวลาเลือกซื้อให้ดูด้วยว่าเปอร์เซ็นต์ขนเป็ดเป็นเท่าไหร่ จะมีเขียนบอกไว้ที่ป้ายเสื้อ เช่น Down 90% คือมีขนเป็ด 90% ที่เหลือเป็นใยสังเคราะห์ พยายามเลือกเปอร์เซ็นต์สูงๆไว้ก่อน จะได้อุ่นๆเด้อ

 ชั้นที่ 4 Fleece Jacket และ ชั้นที่ 5 Shells

ไม่พูดพร่ำทำเพลง เอารูปมาให้ดูเลย

images-horz

Souce: http://www.columbiasale.net

ชั้นนี้ถ้า down jacket คุณเจ๋งจริง ก็ไม่ต้องใส่ก็ได้ แต่ส่วนใหญ่มันมักจะขายติดมากับชั้นที่ 5 ซึ่งค่อนข้างจำเป็นในการกันลม ความจริงอากาศเย็นนี่ยังไม่เท่าไหร่ เจอลม ฝน เข้าไปนี่แทบกระอัก ถ้าใครจะไปเล่นหิมะหรือมีโอกาสต้องเดินหนาวกลางฝน ให้พยายามหาซื้อแบบ waterproof ด้วยจะดีมาก

เนื่องจากไปเจอ Columbia ลดพอดีที่ช็อปสิงคโปร์ เหลือตัวละ 5,000 บาท ปกติจะตกอยู่ที่ 8,000 – 12,000 บาท ถูกมาก กลับไปหาที่ไทยจนเหนื่อย มีแต่แพงๆแล้วไร้ส่วนลด เลยจัดมาทั้งของตัวเองและคุณสำลีแล้วแพ็คส่งกลับไทยคู่กับ down jacket ที่ซื้อมาก่อนหน้า ถึงสีมันจะแจ๊ดไปแต่มันก็ถูกละวะ ท่านพ่อบอกว่าจะได้เด่นๆกลางหิมะไงลูก แหมะ เด่นซะ

ถ้าไม่นับสีแล้ว ฉันชอบตัวนี้มากเพราะมันถอดแยกตัวในตัวนอกได้ แม้กระทั้งหมวกยังถอดออกได้ สะดวกมาก

ถุงมือ

สิ่งที่สำคัญที่สุดแล้ว ฉันดันไปงกในนาทีสุดท้ายตัดสินใจซื้อของโนเนมกะโหลกกะลามา ผลที่ได้คือหนาวเกือบตาย เสื้อ 5 ชั้นที่ใส่มาเมื่อกี้แทบไม่มีค่า ต้องไปหาซื้อเอาใหม่ ซื้อก็ไม่ได้ดีมากนัก ขอแนะนำให้ซื้อของดีๆไปเลย ถ้าใครไปเล่นหิมะก็เอาแบบ waterproof ด้วยจะดีมาก

nn61435-fg_1

Source: http://global.rakuten.com/

ที่เคยไปเล็งๆไว้ ระดับ High-end แบบ The North Face น่าจะอยู่ที่ 1,500-2,000 บาท เสียดายเงินเลยตัดสินใจไม่ซื้อ แต่ ณ จังหวะที่มันหนาวจนสั่นนี่ อยากจะย้อนกลับไปซื้อให้หมดช็อปเลยทีเดียว อ่อ ตอนไปซื้ออย่าลืมดูด้วยว่ามันเป็นถุงมือประเภทกันหนาวหรือไม่ เพราะพวกนี้มันมีหลายประเภท ได้ตั้งแต่กันหนาว เล่นสกี ถึงปีนเขา(ซื้อจะค่อนข้างบางแต่ไม่กันหนาวจ้า)

ถุงเท้า

อันนี้ก็จำเป็นเช่นกัน (มีอะไรไม่จำเป็นบ้างตั้งแต่รีวิวมาถามหน่อย) ควรหาซื้อถุงเท้า wool หรือจะเทคโนโยลีเฉพาะของแต่ละแบรนด์ แหล่งที่ถูกที่สุดคือร้าน Uniqlo เดินเข้าไปเหมาเลยพี่น้อง 2 คู่ตกที่ 375 บาทเท่านั้น เพราะมันมีโปรโมชั่น จงรีบไปฉกชิงแย่งมาเพราะมันจะขาดตลาดเร็วมาก ขอบอก

knee-length-wool-socks

Source: https://www.spencers-trousers.com/knee-length-socks.php

อย่าเผลอซื้อถุงเท้าแบบธรรมดามา ต้องเป็นถุงเท้าแบบกันหนาวเท่านั้นนะจ๊ะ

รองเท้า

เพราะชีวิตมันยังเสียตังค์ไม่พอ สำหรับใครที่ต้องไปเดินหิมะ ขอแนะนำให้ท่านหาซื้อรองเท้ากันน้ำลมฝน ที่รับประกันด้วยคำว่า Gore-Tex อยากให้มั่นใจว่ากันหนาวได้ด้วยก็ต้องซื้อหุ้มขอมา ส่วนฉันขอแบบไม่หุ้มขอเพราะไม่ถนัด

เดินดูอยู่หลายอาทิตย์ ในที่สุดก็ไปสอยของยี่ห้อ Merrell ในราคา 3,000 กว่าบาท ฮืออออ ตอนแรกแอบเสียดายเงินเพราะดูพยากรณ์อากาศแล้วคาดว่าาคงไปเจอหิมะแค่ครึ่งวัน แต่กลายเป็นสิ่งที่คุ้มที่สุด เพราะไปเจอของจริงมันหนักมาก ย่ำหิมะหลายนิ้วติดต่อกันตลอดอาทิตย์เพราะพายุดันเข้ากระทันหัน บทเรียนที่ได้คือเราไม่สามารถคาดการณ์สิ่งที่จะเกิดขึ้นได้ พยายามเตรียมไปให้พร้อมที่สุดจะดีกว่า

Review-Merrell-Siren-Sport-Gore-Tex-XCR-Shoes

Source: http://www.popsugar.com/

สำหรับคนไปตุรกี อย่าได้คิดจะไปซื้อรองเท้าบูทน่ารักๆแบบเกาหลี เพราะมันเดินเยอะ เดินโหด ภูมิประเทศแบบขึ้นห้วยลงเขา เตือนแล้วนะเออ

อุปกรณ์กันหนาวอื่นๆ

ที่เหลือไม่ค่อยจำเป็นเท่าไหร่แล้ว พกไปแล้วแต่สะดวก เช่น หมวกไหมพรม ผ้าพันคอ เป็นต้น ถ้าเสื้อกันหนาวไม่มีหมวด หาอะไรไปปิดหูจะดีมาก ช่วยได้มากทีเดียว

9) เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับตุรกี

สิ่งที่ควรรู้อื่นๆค่ะ จะพยายามรวบรวมแล้วเอามาแปะไว้ในนี้

เวลา: เวลาที่ตุรกีช้ากว่าไทยประมาณ 5 ชั่วโมง ดังนั้นตอนไปแทบจะไม่มีปัญหาอะไรเรื่องปรับเวลา แต่ตอนกลับอาจมีอาการนอนไม่หลับกันได้

หัวปลั๊ก: เค้าใช้แบบนี้กันเด้อ อย่าลืมหากันไป

41YSnsKA-IL._SY300_

Source: http://www.amazon.com/

ผ้าคลุมผม: สำหรับผู้หญิง เวลาเยี่ยมชมเข้ามัสยิด สามารถใช้ผ้าพันคอแทนผ้าคลุมผมได้ แต่ควรหาให้มันหนาๆหน่อย

ห้องน้ำ: อันนี้ปลื้มมากที่สุดที่เคยได้สัมผัสห้องน้ำทั่วโลกมาก มากกว่าญี่ปุ่นอีกนะจะบอกให้ ตุรกีมี 2 นวัตกรรมในเรื่องห้องน้ำที่ฉันชอบจริงๆ

IMG_6316-horz

1) ที่นี่จะไม่มีสายชำระ แต่น้ำจะพุ่งผ่านท่อเล็กๆตรงสู่รูก้นของเราโดยที่เราจะต้องขยับก้นให้พอดีกับสายน้ำเอง สามารถปรับระดับความแรงของน้ำได้โดยหมุนก็อกข้างๆ

2) อันนี้มีเป็นบางที่ คือพสาสติกครอบบนโถชักโครก แบบก่อนใช้ก่อนกดหมุนเปลี่ยนพสาสติก เหมือนได้ชักโครกที่ทำความสะอาดใหม่ตลอดเวลา ฟิน

เวลามองหาห้องน้ำ ให้สังเกตคำว่า WC มันจะมีตามร้านอาหารและสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ อาจจะมีบางที่ที่ต้องเสียเงินเข้า 1 TL ขาดตัว

เนื่องจากประเทศตุรกีนั้นอุดมไปด้วยประวัติศาสตร์ อารยธรรมและเรื่องราวที่น่าสนใจ สิ่งที่ขาดไม่ได้ก่อนไป คือการเตรียมความรู้ เพราะมันคงไม่มีประโยชน์อะไรที่จะแบบยืนมองซากปรักหักพังแบบงงๆ ดังนั้นขอให้เพื่อนๆเจียดเวลาไปศึกษาข้อมูลประวัติของสถานที่ต่างๆที่วางแผนจะไป รับรองว่ามันจะทำให้ทริปของท่านสนุกขึ้้นอย่างแน่นอน

เตรียมตัวพร้อมแล้วก็ไปกันเลย…(ใน post ต่อไปนะจ๊ะ)

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

*