อุดอู้อยู่ในบรรยากาศอึมครึมและหนาวเหน็บมานาน วันนี้ฟ้าเปิด แดดออก! เข้าใจความรู้สึกของฝรั่งก็ตอนนี้ แทบจะวิ่งโร่เข้าไปรับแสงอาทิตย์
ขออภัยหากวันนี้รูปจะสวยแบบช่วยไม่ได้ อิอิ
ตารางของวันสุดท้าย จะมีสรุปค่าใช้จ่ายตอนท้ายสุดค่ะ
21 Feb 2015
แสงแดดแยงรูผ้าม่านมาปลุกให้พวกเราตื่น อิฉันเห็นแดดแล้วกรี๊ดรีบเก็บของวุ่นวายอยู่ในห้อง ส่วนคุณชายสำลี ด้วยความเป็น night person พี่แกมุดผ้าห่มหลับต่อ =..=
เร่งไปก็ไม่ช่วยอะไร กว่าคุณชายท่านจะพิถีพิถันอาบน้ำ แต่งตัว กินข้าว ปลดทุกข์ จนได้ก้าวออกจากโรงแรมก็เกือบ 9 โมง พวกเรามีเวลาเที่ยวถึงบ่าย 3 ต้องมาเจอที่โรงแรมเพราะนัดรถมารับไปสนามบิน SAW ที่อยู่ฝั่งเอเชีย เกิดขี้เกียจแบกข้าวของไปขึ้นรถรางไปต่อรถบัสเลยตกลงกันว่าจ่ายแพงหน่อย แลกความสบาย
ออกมากะว่าจะไปเก็บตก Blue Mosque ซักหน่อย เห็นคิวแล้วขอล้มเลิกความตั้งใจ ถ่ายไกลๆพอ
แดดออกขนาดนี้ ไม่ไปล่องเรือนี่คงเสียใจจนวันตาย (เว่อร์มาก) พวกเรารีบนั่งรถรางไปลงที่สถานี Eminonu
Bosphorus Tour คือการล่องเรือในช่องแคบ Bosphorus ที่กั้นระหว่างทวีปเอเชียและยุโรป แบ่งเป็น Full Bosphorus cruise (ทั้งวัน แบบ hop in – hop off), Short Bosphorus Tour (1.30 – 2 ชม) และ Sunset cruise (มีเฉพาะวันเสาร์หน้าร้อน)
ผู้ให้บริการ Bosphorus Tour มีหลักๆ 2 เจ้า คือ
- Sehir Hatlari ซึ่งจะออกจากท่า Eminonu เวลา 14:30 เท่านั้น ระยะเวลาการล่องเรือ 2 ชั่วโมง เช็ครายละเอียดได้ที่
>> http://en.sehirhatlari.com.tr/en/timetable/short-bosphorus-tour-363.html - TurYol ฺออกจากท่า Eminounu ทุกชั่วโมงตั้งแต่ 10.00 – 19:00 (จันทร์-ศุกร์) 10:00 – 18:00 (เสาร์-อาทิตย์) ระยะเวลาการล่องเรือ 1.30 ชั่วโมง เช็ครายละเอียดได้ที่
>> http://turyol.com/en/tarifeler.asp#bogazturu
แน่นอนว่า พวกเราเลือกไปกับ TurYol เพราะเรื่องของเวลาที่จำกัด ถึงท่าเรือก็วิ่งโร่ไปซื้อบัตรเสียสตางค์กันไปคนละ 12 TL
เหลือเวลาอีก 15 นาที มองเห็นมัสยิดสุลัยมานเหมือน(ย้ำว่าเหมือน)จะอยู่ไม่ไกลนัก เลยติดสินใจไปดูกัน หารู้ไม่ว่า ทางทั้งชันและลื่น เนื่องจากหิมะกำลังละลาย หลงอีกตะหาก กว่าจะขึ้นไปถึงมัสยิดก็กินเวลาไปมากแล้ว เรียกได้ว่า วิ่งชมมัสยิดภายในเวลา 10 นาทีกันเลยทีเดียว
ในที่สุดก็หาจนเจอ
Süleymaniye Mosque (Süleymaniye Camii) หรือ มัสยิดสุลัยมาน ถือเป็นมัสยิดที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจาก Blue mosque สร้างตามพระประสงค์ของสุลต่านอะไรรู้ไหม (โถ คำถามยากมากกก) สุลต่านสุลัยมานนั่นเอง
หาทางเข้าไปข้างในก่อนเลย ลื่นมาก รีบก็รีบ
งดงามตามท้องเรื่อง
ไหนๆก็มาแล้วผนงผนัง ฝ้า เพดาน ต้องเก็บให้หมด
แต่ไฮไลท์จริงๆคือ บริเวณภายนอก
คุณสำลี กะเผลกวิ่งไปถ่ายไป น่าสงสารแต่ก็อดขำไม่ได้ ภาพที่ได้มาใช้ได้อยู่
ที่สุดยอดต้อง ณ จุดๆนี้ มองลอดไปเห็นวิวช่องแคบ Bosphorus ปลื้มมมมมมมมม
ต้องหลายๆภาพ มุมนี้
paranoma กันหน่อย
ทุกหย่อมหญ้าปกคลุมไปด้วยหิมะที่กลายเป็นน้ำแข็งกำลังละลาย ต้องเดินกึ่งสไลด์กันเลยทีเดียว
วิ่งลงมาทันเวลาพอดีเรือออก ที่นั่งทางซ้ายมือถูกจับจองหมดแล้ว แต่ยังโชคดีที่ข้างท้ายเรือยังว่าง
ขอแชะ Galata Tower มุมฮิต ซักภาพ ก่อนเรือจะออก
ขออัญเชิญแผนที่ล่องเรือมาให้ดูกันก่อน เรือจะชิดซ้ายเลียบฝั่งยุโรปก่อนแล้วค่อยกลับลำมาเลียบฝั่งเอเชีย ผ่านสถานที่สำคัญหลายแห่ง เดี๋ยวจะเอาของจริงมาให้ดูจะจะไปเลย
พร้อมแล้วก็ไปกันเลย
สวยจนลืมหนาว แรกๆมีงงว่าทำไมนกนางนวลถึงบินตามเรือเรา
ตามกันมาเป็นหมู่คณะ
อ๋อ มีคนให้อาหารอยู่ข้างๆ ต้องขอขอบคุณที่ได้ภาพนกมาหลายอยู่ อิอิ
แบบซูม นกหน้าตาไร้อารมณ์มาก 555
ขอนกอีกภาพหนึ่ง อย่าเพิ่งเบื่อ
ถัดจาก Galata Tower ซึ่งเห็นได้จากท่าเรือแล้ว สถานที่สำคัญที่เรือแล่นผ่านเป็นอันดับถัดไปคือ Dolmabahçe Palace (Dolmabahçe Sarayı) พระราชวังสุดเว่อร์วังอลังการที่พวกเราไปกันมาเมื่อวานนั่นเอง
อีกมุม
ถัดไปไม่ไกลเป็นพระราชวังอีกแห่งชื่อว่า Çırağan Palace พระราชวังสมัยออตโตมันที่ถูกแปรสภาพมาเป็นโรงแรม 5 ดาวในปัจจุบัน ใครอยากจะไปสัมผัสวิถีชีวิตแบบ royal หอบเงินใส่กระสอบไปจองกันได้ คงจะแพงน่าดู
ก่อนถึง Bosphorus Bridge นิดนึง เราจะเจอมัสยิดริมน้ำอันมีนามว่า Ortaköy Mosque ตอนแรกว่าจะเดินมาดูอยู่แต่ไม่มีเวลา ไว้โอกาสหน้าน้าาา
Bosphorus Bridge สะพานแห่งแรกที่เชื่อมระหว่างทวีปเอเชียกับยุโรป
บรรยากาศภายในเรือ ช่างภาพทั้งหลายเริ่มผุดลุกผุดนั่งสอดส่ายสายตาหามุม
อยู่ท้ายเรือกันมานาน ไปเก็บภาพหัวเรือกันบ้างดีกว่า
กรี๊ด ไม่น่าเชื่อว่าอิฉันเป็นคนถ่ายด้วย Intelligent Mode (for intelligent person) ฮ่าๆๆๆๆ
ได้ใจ เอาอีกรูปๆ
ส่องห้องกัปตันเล็กน้อย ไม่รู้ว่าจะเบื่อหรือฟินที่ได้เห็นวิวแบบนี้ทุกๆวัน
ผู้คนออกมาเดินสูดอากาศรับแดดในวันหนาวๆ
สถานที่ต่อไป Roumeli Fortress
ติดๆกันกับป้อมปราการคือสะพานเชื่อมสองทวีปแห่งที่สอง Fatih Sultan Mehmet Bridge
ไม่รู้ว่าเป็นโรงแรมหรือเปล่า ขลังมากกก
ได้เวลากลับเรือ
เรือขนสินค้ามาจากไหนไม่รู้ ลำเบ้อเริ่มเทิ้ม อ๊าก อย่าเข้ามา ยังถ่ายวิวไม่หน่ำใจเลย
เรามาชมวิวฝั่งเอเชียกันบ้าง
สะพาน Sultan Mehmet เมื่อกี้นี้
ส่วนใหญ่เป็นย่านที่พักอาศัยของชาว Istanbul บ้านเรือนเต็มไปหมด
นก… เยอะไปไหม
อีกฝูง เอ้ย นี่มันเป็ด
ผ่านป้อมปราการอีกแห่งชื่อว่า Anadolu Fortress ค่อนข้างเล็กกว่าอันที่อยู่ฝั่งยุโรป
ถัดมาอีกเล็กน้อย Küçüksu Palace พระราชวังสมัยออตโตมันอีกแห่งที่สุลต่านเอาไว้มาพักผ่อนและล่าสัตว์
ไม่ไกลจากนั้น มีอีกวัง (รวยจังวุ้ย) ชื่อ Beylerbeyi Palace พระราชวังฤดูร้อนของท่านสุลต่าน คล้ายกับวังเมื่อกี้มาก แต่ไม่ใช่หลังเดียวกันนะตะเอง
ลอด Bosphorus Bridge
ช่างภาพของเราเริ่มหยิบเลนส์มาเปลี่ยน จะซูมให้ถึงพระอาทิตย์เลยใช่ไหม
เรือมันแล่นอยู่ฝั่งนี้ แต่คุณพี่ก็จะไปถ่ายไปฝั่งนั้น บ่นมากไม่ได้ เดี๋ยวงอนแล้วอดได้รูปมาเขียนบล็อก เอิ๊กๆ
ปิดท้ายกันด้วย Maiden Tower ที่พวกเราข้ามน้ำข้ามทะเลไปถ่ายรูปกันมาเมื่อวันก่อน
กลับขึ้นฝั่งกันดีกว่า หนาวแย้ว
ลงจากเรือมาแบบหิวอ่ะ ขอยัดขนมปังซักก้อน
ได้มาล่ะ Fish sandwich ในราคา 6 TL กินปลาแล้วโยนขนมปังทิ้งได้เลย
เติมพลังแล้วก็ลุยกันต่อ สถานที่ต่อไป Galata Tower นั่นเอง ถ่ายแบบไกลๆก่อน
ซูมเข้าไป
เติมพลังกันเรียบร้อยก็ได้เวลาเคลื่อนทัพ
จากท่าเรือต้องเดินผ่านสะพาน Galata ไป
คนตกปลาเยอะกว่าวันอื่นๆมากเพราะอากาศดี
เจอคุณลุงขายซิมิท คอลุงต้องแข็งแรงมากกกก
ปลาสดๆ
เอ้ย ใจเย็น อย่าเพิ่งหิว ไปเที่ยวก่อน
เห็นบันไดแล้วท้อต้องปีนเขาอีก 1 ลูก
ในที่สุดก็มาถึงจนได้
สำหรับใครที่ตั้งใจจะขึ้น Galata Tower อย่าลืมเผื่อเวลาไว้ด้วยนะคะ popular มั่กๆ ขอบอก
ยืนต่อคิวอยู่ 30 นาที
ในที่สุดก็ได้ฤกษ์เสียสตางค์ 25 TL ต่อคน ตั๋วน่ารักเชียว
จากนั้น พนักงานที่ยืนเก๊กหล่ออยู่นั่น จะกดลิฟต์พาท่านไปชั้นบน ขึ้นบันไดอีกหน่อยก็จะเป็นจุดชมวิว
แค่เห็นก็สยอง ข้างนอกคนบาน เอาวะ เสียเงินขึ้นมาแล้ว ลุยยยย
ยังมีหิมะตกค้างตามหลังคาให้เห็นอยู่ประปราย
สะพานกาลาตาที่พวกเราเดินผ่านมาเมื่อตะกี้
อีกมุม
วนจนครบรอบ ก็ต้องตัดใจจากวิว 360 องศา กดลิฟต์ลงมาที่เดิมโดยดี
เดินย้อนกลับไปแถวหลังตลาด Spice เจอร้านชื่อ Bambi ที่เคยได้ยินว่าถูก จะสมคำร่ำลือไหมมาดูกัน
ชุด wrap 9.5 TL
ชุด Half meat ball 10.75 TL แต่ไหนวะ meat ball
สั่ง Cheese Toast มากินเล่นตบท้าย ราคาเบาๆ 3 TL
อาหารชุด มีแถมโค้กกับของหวานด้วย อะไรก็ไม่รู้ รสชาดเหมือนช็อคโกแลตปลอม
กินเสร็จเดินออกมาถ่าย New Mosque ที่อยู่แถวนั้นซักหน่อย
ซูมมมมมมมมมม
ทำความสะอาดร่างกายก่อนทำละหมาด
ตบท้ายกันด้วยไอติมตุรกีอันแสนลือชื่อ โคนล่ะ 9 TL แหนะ แต่มาถึงนี่ไม่ลองก็ไม่ได้ วันสุดท้ายแล้วด้วย
คนขายหน้ามันไม่ยิ้มเลย เหมือนจำใจขาย
มันมายืนมองคนกินไอติม ไม่รู้จะแบ่งให้ยังไง
พวกเรารีบรุดกลับโรงแรม กลัวรถมาแล้วคลาดกัน แล้วก็เป็นดังคาด ยังไม่ได้ทันพัก รถก็มาจอดเทียบท่าเสียแล้ว ค่ารถคนละ 10 EUR ถ้วน ส่งเกยถึงสนามบินกันเลยทีเดียว
แยกย้ายกลับประเทศใครประเทศมัน
บ๊ายบายอิสตันบูล…บ๊ายบายตุรกี…บ๊ายบายคุณสำลี
The End
ก่อนจะจากกัน ขอแปะสรุปค่าใช้จ่ายต่อคนตามสัญญาค่ะ ที่ Highlight สีฟ้าอ่อน ถ้าอยากรู้ราคาเต็มต้องคูณ 2