ทริปครอบครัวหรรษา พาตะลุยสิงคโปร์ ตอนที่ 1: และแล้ว…เราก็มาถึง

ทริปนี้ เป็นทริปที่วางแผนกันมายาวนานมาก เรียกได้ว่าตั้งแต่มาเหยียบแผ่นดินสิงคโปร์ด้วยซ้ำ (ตอนที่มาสำรวจที่พัก) แม่ก็บอกเลยว่า ยังไงปีใหม่ที่ต้องพาพ่อกับน้องมาให้ได้ แต่จนแล้วจนรอดก็จองตั๋วเครื่องบินและโรงแรมช้าไปหน่อย (ประมาณ 4 เดือนล่วงหน้า) ทำให้ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงพอสมควรกับ 2 เรื่องนี้ (ตั๋วเครื่องบินคนละ 6,000 บาท ค่าโรงแรม 3 ดาว ห้องพัก 2 คน คืนล่ะ 4,000 บาท) เหงื่อตกรอบที่ 1

ทริปครอบครัวนี้เป็นทริปแรกที่ฉันเป็นคนจัด เรียกได้ว่าตัดสินใจทุกอย่างตั้งแต่ตั๋วเครื่องบิน โรงแรม และเตรียมแผนการท่องเที่ยว ซึ่งปกติพ่อจะเป็นคนจัดการในทุกๆปีที่ผ่านมา รู้สึกหนักใจมาก หลักๆเพราะเป็นครั้งแรกที่จัดทริปให้คนสูงวัยเที่ยว (ชะอุ้ย) จะเห็นว่าการเที่ยวของฉันปกติจะเป็นทริปทรหด + ประหยัด แบนแท็กซี่ เดินตั้งแต่เช้ายันมืด ไปดูมันทุกที่ เอาให้คุ้ม แต่พอมาจัดให้พ่อแม่ก็ต้องคำนึงถึงสภาพร่างกายของท่านด้วย ไหนช่วงปีใหม่ของสิงคโปร์ยังคนเยอะและเป็นหน้าฝนอีก เรียกได้ว่าตกกันทุกวัน ตกทีไม่ลืมหูลืมตา ได้แต่ภาวนาขอให้ฟ้าฝนเป็นใจในช่วงที่พ่อกับแม่มา ขอให้ท่านประทับใจที่สุด ไม่พูดพร่ำทำเพลง ออกเดินทางกันเลยดีกว่า

หมายเหตุ: ทริปนี้เป็นทริปครอบครัว เน้นไปที่ความรู้สึก ความสนุก ความอบอุ่น ความทรงจำในตอนนั้นกับครอบครัวมากกว่า สำหรับค่าใช้จ่ายและการเดินทางแบบละเอียด หาอ่านที่ post ชุด My Cotton is Here, in Singapore ได้เลยค่ะ

วันที่ 1

พ่อเอารถมาจอดรอขนของหน้าบ้านแล้ว

IMG_5828

ขอท้าวความกลับไปซักนิด ถึงปัญหาขลุกขลักซึ่งเป็นผลมาจากความไม่ใส่ใจของหัวหน้าทัวร์ (ฉันเอง) เหตุมาจากฉันซื้อตั๋วเครื่องบินคนละรอบกับของพ่อแม่และน้อง (พอดีบริษัทบอกให้หยุดวินาทีสุดท้าย เลยโดนตั๋วไป-กลับไป 13,000 บาท T^T) ตั๋วถูกสุดดันคนละสายการบินกัน แล้วฉันก็ดันจำว่าของพ่อแม่ขึ้นที่สนามบินดอนเมือง มารู้เอาคืนสุดท้ายว่าขึ้นที่สุวรรณภูมิ หวุดหวิดไปแล้วไหมล่ะ ฟิ้ววว ฉะนั้นตรวจสอบให้ดีเน้อ ถึงจะบินบ่อยแค่ไหนก็อย่าชะล่าใจ (นี่ขนาดบินไม่บ่อยนะเนี่ย)

นี่ขนาดจองไม่ใช่รอบเช้าสุด แม่ปลุกตั้งแต่ตีห้า ออกเดินทางมา พระอาทิตย์ยังเพิ่งขึ้น โอย ตาจะปิด อากาศก็กำลังเย็นสบาย นึกเสียดายอากาศทางเหนือของเมืองไทย ถ้าไปคงฟินมากๆ ว่ะ ไม่เป็นไร พาครอบครัวหนีหนาวไปตะลุยฝนกับอากาศร้อนที่สิงคโปร์ดีกว่า (สะอื้นแปร๊บ)

IMG_5829

มาถึงสนามบินก็ซักซ้อมกันอย่างดีว่าจะไปเจอกันที่ไหนที่สนามบินปลายทางชางฮี เนื่องจากเครื่องดันลงคนละ terminal แม้ฉันจะถึงก่อน 15 นาที แถมผ่านตม.ง่ายกว่านักท่องเที่ยว (เพราะเค้าถือว่าเป็น long-term pass holder สแกน passport ทีเดียวแล้วผ่านไปเลย) แต่ฉันยังต้องรอกระเป๋าที่โหลดใต้ท้องเครื่อง แล้วก็ยังต้องนั่งรถไฟระหว่าง terminal ไปหาพ่อแม่น้องที่อีก terminal หนึ่ง เลยบอกว่า ถ้าออกมาไม่เจอเจน ให้ไปรอที่ร้าน Burger King พร้อมกับให้เงินไป 50 sgd ถ้วน (คืออยากให้มากกว่านี้ แต่มีอยู่แค่นั้น T^T)

ตอนไป Check-in พนักงานน่ารักมาก เช็คๆแล้วบอกว่า เปลี่ยนที่นั่งไหมครับ ที่นั่งที่จองมา มีคนจีนล้อมรอบหมดเลย 9 ทิศ เดี๋ยวการเดินทางจะครื้นเครงเกินไป (ประโยคท้ายต่อให้เอง) แทบจะกราบ บอกน้องเค้าว่า เปลี่ยนเลยค่ะ แต่เอาติดหน้าต่างนะคะ เลยได้มาเลยแถวแรก ขึ้นคนแรก ลงคนแรก ยืดขาได้ แต่อยู่ติดกับแอร์สุดๆ (ถ่ายรูปตอนเครื่องขึ้นกับเครื่องลงไม่ได้แม้จะเปลี่ยนเป็น airplane mode เดี๋ยวโดนไล่ลงเครื่อง จริงๆเห็นเครื่องที่พ่อแม่นั่งกำลังต่อแถวจะ take off ด้วย โบกมือให้แต่ลืมไปใครจะเห็น แป่ว) คุณแอร์เห็นแบบนี้เสียงเพราะสุดๆ แบบนึกว่าสาวปิ๊ง สังเกตว่าแอร์ชาติอื่นนี่จะไม่ค่อยสวยหุ่นดีซักเท่าไหร่ (แม้กระทั่งแอร์สาวๆหุ่นไม่เป๊ะก็มี) เพราะเงินเดือนสูสีก้บอาชีพอื่น แถมความลำบากอะไรหลายๆอย่าง เลยทำให้ไม่ค่อยเป็นที่นิยมของสาวๆเหมือนบ้านเรา

วันนี้อากาศดี เห็นแผ่นกินกับทะเลจากหน้าต่างเครื่องบินชัดมาก เสียดายไม่มีกล้องใหญ่เลยต้องใช้กล้องไอโฟนแอบๆเก็บภาพเอา

IMG_5834-horz

เคลิ้มๆกำลังจะหลับ ข้าวก็มาส่งพอดี เห็นแล้วทีหลังจะไม่สั่งมันอีกเลย Tiger Air ดูเทียบกับขนาดมือเอา โอ้ย จะเล็กไปไหน กินสามคำหมดพูดจริง ไข่ที่เห็นนี่ไข่นกกระทานะเครอะ ฟองกะปิ๊ด กล่องนี้น่าจะประมาณ 500 กว่าบาท ไม่ย้อมมม

IMG_5842

เนื่องจากย้ายที่ทำใหตอนเช็คก่อนเครื่องออกไม่เจอ เลยโดนตามตัวออกไมค์ MS. Jane, please identify yourself to the crew อ๊าก ตรูสะดุ้งตกใจรีบยกมือเลยนึกว่าอะไร ที่แท้จะเสิร์ฟข้าวให้ กับมาถามว่า coffee or tea? เอิ่ม

มาถึงแผ่นดินสิงคโปร์ เห็นเลยนอกหน้าต่างเครื่องบิน เม็ดฝน! ม่ายยย แต่ The show mush go on กระโดดลงจากเครื่องบิน (เว่อร์) จ้ำแข่งกับเวลา เอาตัวเองผ่านด่านมาอย่างรวดเร็ว แบบโคตรเร็ว ถึงขนาดไปอึ๊มาแล้วหนึ่งทีกระเป๋ายังไม่มา สักพักลูกน้อยของฉันก็ผ่านสมรภูมิรบออกมา นี่แม่เพิ่งไปถอยลูกมาหมาดๆจริงๆหรือเนี่ย ทำไมมอมแมมเยี่ยงนี้

IMG_5843ได้กระเป๋าก็มุ่งหน้าไปรับพ่อแม่และน้องทันที คุณแฟนแมสเสจมาว่าเครื่องของพ่อแม่ลงแล้ว เหาะไปด่วนนน (คุณแฟนช่วย monitor ออนไลน์ให้) ภาวนาให้ผ่านด่านมาอย่างเรียบร้อย แต่คาดว่าน่าจะไม่มีปัญหาเพราะเขียนใบ ตม. เตรียมไว้ให้แล้ว ประกอบกับน้องชายพอมีพื้นฐานภาษาอยู่บ้าง น่าจะโอเคอยู่

รอไม่นาน ทั้งสามก็เดินสบายบรื๋อออกมา แต่ไม่เห็นลูกที่ยืนโหวกเหวกหน้าทางออกซะงั้นเพราะมัวแต่หา Burger King คิดถึงแต่มันนานๆก็จัดมื้อแรกของสิงคโปร์ที่นั่นซะเลย ระหว่างรอพ่อแม่กินเบอร์เกอร์ ลูกก็ต้องไปกดเงินมาให้พ่อแม่ใช้ ถามพ่อว่าจะเอาเท่าไหร่ ป๋าบอกคำนวณมาเรียบร้อย รอบแรกเอาคนละ 2,500 sgd พอ คำนวณในใจอย่างรวดเร็ว 2,500 x 2 = 5,000 เท่ากับเงินไทย 125,000 บาท จะเอาไปซื้ออะไรคะป๋า ประเด็นคือลูกจะไม่มีเงินจ่ายค่าเช่าบ้านเอา ป๋าบอกอ้าาว มันไม่ได้คูณ 4 หรอ (ยังนึกว่าเป็นเงินหยวนแน่ๆ) คำนวณกันใหม่ไปกดกันมาใช้ก่อนคนละหมื่นกว่าๆ (บาท) ค่อยยังชั่ว

เริ่มแรกควรจะเปิดแบบไฮโซเลยหาแท็กซี่ให้นั่งเริ่ดๆจากสนามบินไปโรงแรมก่อนเลย พ่อแม่น่ารักดี พยายามคุยกับคนขับโดยมีฉันเป็นล่าม คนขับก็เลยสนุกใหญ่ค่อยๆขับ พาชมเมืองลอดอุโมงค์ทะลุไปไหนถึงไหน กว่าจะถึงโรงแรมย่าน China Town ค่าแท็กซี่เลยซัดไป 500 ร้อยกว่าบาทแถมพ่อบอกให้ทิป เลยจัดไปอีก 50 บาท โอย รู้สึกรวยจริงๆ T^T แต่ก็ไม่เสียดายเพราะรู้สึกว่าคนขับแท็กซี่ทำให้พ่อแม่รู้สึกสนุกได้ ถือเป็นการเปิดทริปที่ค่อนข้างประทับใจ โล่งไปหนึ่ง

ยังประทับใจต่อเนื่องกับเด็ก(ซึ่งแก่มาก)ยกกระเป๋า แนะนำนู่นนี่ พาชมนู่นนี่ เลยทิปไปอีก พอเปิดประตูห้องเข้าไปเท่านั้นล่ะเรื่องเกิด พ่อกับแม่นี่อึ้งไปอย่างเห็นได้ชัด เพราะมันเล็กสำหรับพวกเค้าจริงๆ ยัด 4 คนนี่แทบจะกระดุกกระดิกไม่ได้ (แต่เดี๋ยวเอาน้องไปนอนที่บ้านเลยโอเคขึ้นมาหน่อย) ในใจคิดล่ะ ซวยแย้ววว

IMG_5851

ถ่ายหน้าโรงแรมซักหน่อย เพราะพ่อแม่คงไม่มีโอกาสมาพักแบบลำบากแบบนี้แล้ว

IMG_5853

ถึงจะกินจากสนามบินมาแล้วก็ไม่หวั่น เราพาไปกินต่อที่ Maxwell Hawker Center ที่มีข้าวมันไก่เทียนเทียนเจ้าดังอยู่ ไอเราก็ไปต่อแถวมา 30 นาที สุดท้ายแม่บอกให้ซื้อจานเดียวพอ แต่พอมาถึงนี่ซัดกันเรียบ (ไหนบอกไม่มีคนกินงายแม่ แซวววว) กินเสร็จเข้าวัดพระเขี้ยวแก้วที่อยู่ตรงข้ามต่อเลย

IMG_5854-horz

แล้วก็พาไปซื้อตั๋วท่องเที่ยวที่ Sea Wheel Travel ตามเสต็ป ตั๋วที่ต้องซื้อคือ USS, Gardens by the Bay, Singapore River Cruise และ Singapore Flyer หมดไปอีกหมื่นกว่าบาท ขนาดว่าฉันมีบัตรผ่าน USS อยู่แล้ว โอย ปาดเหงื่อๆ ซื้อบัตรเสร็จก็ไปเอากระเป๋าตัวเองกกับของน้องชายไปเก็บที่บ้าน (จริงๆพาพ่อไปดูชีวิตความเป็นอยู่ด้วย แกจะได้สบายใจ) แล้วออกเดินทางทันที วันนี้ฟ้าฝนเป็นใจเลยจะพาไปล่องเรือ (ได้กล้องมาล่ะ จากนี่คงได้รูปรัวๆ)

เริ่มต้นความลำบากด้วยการแจกบัตร EZ-link (ที่ยืมมาจากเพื่อน) คนละใบ ต่อไปลุยขนส่งสาธารณะอย่างเดียวแล้ว เริ่มที่รถเมล์ พ่อถึงกับยืนงงหน้าป้ายอยู่แป๊บหนึ่ง

DSC01380

ในที่สุดก็ขึ้นไปนั่งได้โดยสวัสดิภาพ ถึงกับยิ้มแฉ่งภูมิใจไปตามๆกัน

DSC01381

มาถึงแล้ว Clarke Quay ยังไม่มืดเลยไม่ครึกครื้นเท่าไหร่ เดินสบายๆ แอบพาพ่อกับแม่ไปซื้อซิมมือถือในห้างแถวนั้น แม่บ่นว่าติดต่อใครไม่ได้เลย (ไม่ใช่งานหรอก ท่านแม่จะโซเชียลมากกว่า)

DSC01384

ต่อคิวไม่นานก็ได้ขึ้นเรือ โชคดีพอที่จะได้นั่งตรงส่วนที่ไม่มีหลังคาคลุม เห็นวิวแบบเต็มๆ

DSC01388

ผ่านเมอร์ไลอ้อน คนเยอะมว๊ากกกก

DSC01392

ลมดีมาก นั่งกันเย็นสบาย โล่งใจไปอีกหนึ่งกิจกรรม

DSC01399

นั่งไปซักพัก พ่อหันไปเล่นกับเด็กฝรั่งแถวนั้น น่ารักซะด้วย สืบจนรู้ว่าเป็นอิตาลี เอาซะสิ ภาษาอังกฤษมึนๆทั้งคู่

DSC01403

ขึ้นจากเรือมาก็มืดพอดี ได้เวลาเดินหาอาหารเย็นกิน

DSC01406

พาเดินลอดอุโมงค์กันไปกิน Song Fah Buk Kut Teh

DSC01408

คนรอคิวยาวสุดๆ พอเห็นหน้าพ่อแม่รู้เลยว่าไม่ไหวแน่ สมองแล่นติ้วๆอย่างรวดเร็ว ดีนะที่แต่ก่อนเคยอยู่ service apartment แถวนี้ จำได้ว่าชั้นใต้ดินของห้าม Central Clarke Quay มีฟู้ดคอร์ทอยู่ เลยพาไปเดินวนๆที่นั่น ไม่น่าเชื่อว่าร้านธรรมดา รสชาติธรรมดา แต่ไม่ต้องรอ ไม่ต้องแย่ง น่ากินสบายๆ ก็มีความสุขได้

DSC01409

กินเลยก็ขึ้นรถเมล์กลับไปส่งพ่อแม่ที่โรงแรม แต่พ่อดันติดแมนยู เลยต้องไปหาดูร้านขายปูขายเบียร์แถวนั้น แต่พวกเราเข้าไปสั่งน้าผลไม้ปั่น 2 แก้ว แล้วนั่งดูจนบอลจบเลย สาวเชียร์เบียร์ถึงกับงอน

DSC01413ส่วนแม่ เข้าโรงแรมไปอาบน้ำนอนดูทีวีสบายใจเฉิบ

DSC01414

พอดีไม่ได้เอาหัวปลั๊ก convert ไป เลยชาร์ตโทรศัพท์ด้วยการใช้วิธีเสียบสาย USB เข้ากับทีวี ไฟเข้าด้วยแต่ต้องเปิดทีวีทิ้งไว้ เป็นครั้งแรกที่เอาความรู้ที่อ่านเจอจาก Facebook มาใช้ในชีวิตจริง

ไปเอาตัวพ่อกลับโรงแรมมาได้ ก็ขึ้นรถเมล์กลับบ้านกับน้องด้วยความง่วง แต่ถึงง่วงแค่ไหนก็ไม่ลืมที่จะปูที่นอนให้น้องหรอกนะ (อย่าฝันว่าพี่จะเสียสละเตียงให้ นอนที่พื้นไปเถอะไอน้องชาย)

IMG_5871

น้องยังต้องอ่านหนังสือสอบต่อ (น่าสงสารมาก) ส่วนตัวพี่หลับไม่รู้เรื่องทั้งๆที่ไฟห้องเปิดสว่างจ้า เจอกันพรุ่งนี้ เราจะพาพ่อแม่ไปปล่อยแก่ที่ USS ยะฮู้ววว

One comment

  1. มีโอกาสก็อยากลองไปสัมผัสแบบนี้บ้างนะnn1

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

*