[Bromo – Ijen] เอาแหวนไปทำลายที่โบรโม่ – ครบเครื่องเรื่องเตรียมตัว

อินโดนีเซีย ประเทศที่ยังไง๊ยังไงก็ไม่เคยติดอยู่ในลิสต์การท่องเที่ยวที่ยาวเป็นหางว่าวของฉันเพราะ 1.ร้อน 2.ร้อน 3.ร้อน (ที่ไหนไม่มีหิมะขอให้ตัดทิ้งไปก่อน) แต่เนื่องจากมีเพื่อนสองคน(ที่ไม่รู้จักกัน)ชวนไปภูเขาไฟชื่อเท่ ‘โบรโม่’ พร้อมๆกัน เลยเริ่มหาข้อมูลแล้วพบว่า เฮ้ยยย สวยดีนี่หว่า แถมใช้เงินไม่มากอีกตั้งหาก ถึงจะเป็นการปีนภูเขาไฟที่ยังพร้อมจะระเบิดอยู่ทุกเมื่อก็เหอะ (ซึ้อประกันการเดินทางไปหน่อยแล้วกัน) ว่าแล้วก็จัดการรวบรวมสมาชิกและจองตั๋วเครื่องบินโลด

25591022-dsc01968

ตั๋วเครื่องบิน

เราจะต้องบินไปลงที่เมืองสุราบายา (Surabaya) ได้ยินชื่อก็จะเมาล่ะ ซึ่งปัจจุบันไม่มีบินตรงจากกรุงเทพฯ ต้องไปทรานซิทซักที (ส่วนใหญ่จะเป็นสิงคโปร์) ฉันไปเสิร์ชหาตั๋วถูกและลองจองผ่าน Skyscanner เป็นครั้งแรก ได้บินกับ Tiger Airways ราคาคนล่ะ 5,700 + 1,000(โหลดกระเป๋าคนละ 10 กิโลไป-กลับ) = 6,700 บาท ราคานี้ไม่มีการเลือกที่นั่งและข้าวหรือน้ำซักหยดบริการนะฮ้าบ

แต่พอทางสายการบินส่งตั๋วจริงกลับมากลายเป็นว่าคนล่ะ 6,280 บาท ไอ้บริษัทนายหน้ามันกินหัวคิวไปตั้งสี่ร้อยกว่าบาท! เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ใช้ Skyscanner เสิร์ชหาคร่าวๆและจองจริงกับสายการบินต้นทาง นะคะ T^T

%e0%b8%95%e0%b8%b1%e0%b9%8b%e0%b8%a7

แผนการท่องเที่ยว

ทริปมาตรฐานของการไปโบรโม่ มักจะพ่วงภูเขาไฟอีกลูกที่ชื่อว่า คาวาอีเจี้ยน (Khawa-Ijen) ไปด้วย (ดูมันน่ารัก คาวาอี้ ไงไม่รู้) และอาจจะเลยไปถึงบาหลีเพราะอยู่ไม่ไกลนัก ข้ามทะเลไปจึ๊กนึงก็ถึง สรุปทางเลือก คือ

  1. โบรโม่ คาวาอีเจี้ยน: ให้ไปและกลับที่สุราบายา 3-4 วันก็เพียงพอ
  2. โบรโม่ คาวาอีเจี้ยน บาหลี: ไปสุราบายา กลับบาหลี ใช้ประมาณ 5 วัน

เนื่องจากฉันไม่ได้ดูแผนที่ตอนจอง และไม่ได้ตระหนักว่าบาหลีนั้นอยู่ใกล้แสนใกล้ เอ๊อะ เพราะความเฉิ่มของฉัน ทริปที่เราได้มาคือ คาวาอีเจี้ยน – โบรโม่ – สิงคโปร์ (อันหลังแถม เพราะทรานซิทนานมว๊าก)

test

ถามว่าไปช่วงไหนดีที่สุด ตอบว่าไม่รู้ เอาฤกษ์สะดวก ส่วนหนึ่งเพราะอากาศคล้ายๆกันทั้งปี มีแต่ต้องลุ้นเรื่องฝน พวกเราไปกันช่วง 19 – 23 ตุลา (5 คืน 5 วัน) อันนี้เป็นแผนคร่าวๆที่สามารถเอาไปลอกได้โดยสะดวกโยธาไม่ว่ากัน อิอิ

  • 19 Oct (Wed)
    20.05 น.- 23.30 – ออกเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ แวะเปลี่ยนเครื่องที่สิงคโปร์ 8 ชม 45 นาที ปรับเวลาเร็วขึ้น 1 ชั่วโมง (นอนสนามบินและกินข้าวเช้าที่สนามบิน)
  • 20 Oct (Thu)
    08.15 – 09.35 น. – ถึงสนามบินฮวนดาร์ สุราบายา ปรับเวลากลับมา 1 ชั่วโมง
    10.00 – 19.00 น. – รถเช่ามารับที่สนามบิน ออกเดินทางสู่เมือง Bondowoso เข้าพักผ่อนที่โรงแรม (แวะมินิมาร์ทและแวะกินข้าวกลางวัน)
  • 21 Oct (Fri)
    01.00  – ออกเดินทางจากที่พัก สู่จุดเริ่มต้นทางเดิน Ijen Crater
    02.00 – 06.30 น. – เดินเท้าขึ้น Ijen Crater ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร ครึ่งทางแรกชันมาก เมื่อผ่านจุดพักจะเริ่มเป็นทางราบเลาะไหล่เขาจนถึงปากปล่องภูเขาไฟ เดินลงไป 45 นาที ชม Blue Fire (ในโลกมีแค่ที่นี่กับที่ Iceland) และเหมืองกำมะถันที่ด้านล้างของ Ijen Crater 
    06.30 – 09.00 น. – เที่ยวชม Ijen Crater แล้วเดินกลับลงมา (ห้ามซื้อกำมะถัน เอากลับไม่ได้) มุ่งสุ่โบรโมเลยเพื่อไปเก็บแสงสุดท้ายของโบรโม่
    09.00 – 16.30 น. – ออกเดินทางจากเมือง Bondowoso สู่หมู่บ้าน Cemolo lawang เมือง Probolinggo เข้าที่พัก
  • 22 Oct (Sat)
    03.00 – 07.00 น. – ออกเดินทางไปชม Bromo sunrise ที่ Mount Penanjekan 1 (Jeeb 4×4)
    07.30 – 09.15 น. – เดินเท้าขึ้นชมภูเขาไฟที่ Mount Bromo (มีม้าให้เช่าหากเดินไม่ไหว)
    09.15 – 10.00 น. – ชมทุ่งหญ้าสะวันนาและทะเลทราย
    11.00 – 13.00 น. – กลับไปพักผ่อนเก็บกระเป๋าเช็คเอ้าท์ออกมา
    13.00 – 15.00 น. – Madakaripura waterfall เตรียมกางเกงขาสั้น รองเท้าแตะ ไม่ต้องเอากล้องไป
    15.00 – 18.30 น. – ออกเดินทางสู่สุราบายา เป็นโรงแรมในสนามบิน Ibis budget Surabaya Airport
  • 23 Oct (Sun)
    06.oo – 09.15 น. – ทานอาหารเช้าและพร้อมเช็คอินไฟลท์
    10.15 – 14.00 น. – ออกจากสุราบายา แวะเปลี่ยนเครื่องที่สิงคโปร์ 17 ชม. ปรับเวลาขึ้น 1 ชั่วโมง ฝากกระเป๋าไว้ที่สนามบิน
    14.00 – 16.00น. – เดินทางไปห้าง Vivo City กินข้าวกลางวันที่ Food Republic
    16.00 – 17.00 น. – ข้ามไปเกาะเซนโตซ่า กิจกรรม Skyline & Luge
    17.00 – 19.00 น. – ช็อปปิ้ง ณ. Orchard
    19.00 – 20.00 น. – Merlion ดูแสงสีเสียง
    20.00 – 21.00 น. – Song Fah บักกุดเต๋ แถว Clark Quay
    21.00 – 22.00 น. – ก๊งริมน้ำที่ Clark Quay
    23.00 น. – กลับมานอนสนามบินและขึ้นเครื่องกลับ 6.40 น. วันรุ่งขึ้น

ถือเป็นทริปที่ทรหดพอสมควรเพราะนอนสนามบินตั้ง 2 คืน (ถึงจะเป็นสนามบินที่ดีที่สุดในโลกก็เหอะ) นั่งรถรัวๆ ตื่นเช้าทุกวันมีตั้งแต่เที่ยงคืนไล่จนถึงหกโมง แถมยังต้องเก็บแรงไปซ่าแบบกิจกรรมอัดแน่นปิดท้ายที่สิงคโปร์อีก พวกลูกทริปที่หลงผิดมากับฉันนี่มันน่าสงสารจริงๆ หึหึ

งบประมาณ

ค่าใช้จ่ายหลักๆของทริปนี้คือ การซื้อทัวร์ โอ๊ะๆ เหล่า Backpackers อย่าเพิ่งตกใจไป เพราะทัวร์ในที่นี่คือ การเช่ารถพร้อมคนขับ (เพราะถนนอินโด+ภูเขา เส้นทางที่จะไปก็มีแต่รถบรรทุก พวกเรามือไม่ถือกันแน่ๆ) ที่พัก (ที่ติดต่อโคตรจะลำบาก) พวกไกด์ตามที่ต่างๆและบริการอิหลุ่ยฉุยฉ่าย แต่เราจะเป็นคนกำหนดแพลนการท่องเที่ยวด้วยตัวเอง

ตารางข้างล่างสรุปค่าใช้จ่ายของทัวร์โบรโม่ชื่อดังในพันทิป พร้อมช่องทางติดต่อ ส่งเมล์หาพวกนางต้องอดทน เพราะเป็นวันกว่าจะตอบกลับ นอกจาก Adit ที่รวดเร็วฉับไวไม่เกินชั่วโมงด้วยการใช้ facebook สื่อสารกับลูกค้า เลยได้ใจอิฉันไปครองก๊าบ

capture

ขอ Note นิดนึงว่าตอนนี้ไม่ต้องจ่ายค่าภาษีสนามบินไปเงินสดเพราะได้ถูกรวมไปในค่าตั๋วแล้ว ข้างล่างเป็น email template เอาไว้ส่งหาทัวร์ต่างๆเวลาขอราคา ให้ดีที่สุดคือแพลนไว้ก่อนว่าจะไปไหนเมื่อไหร่ยังไง

capture1

ข้อผิดพลาดประการสำคัญของฉันคือ Entrance fee โปรดจดจำไว้ว่าประเทศอินโดมีด่านเถื่อนเยอะมาก มันอยากจะตั้งมาดักก็ตั้ง โขกสับราคาสูงๆกับนักท่องเที่ยวตัวน้อยๆอย่างพวกเรา = หมูในอวย ซึ่งสุดท้ายก็ต้องจ่าย เพราะไหนๆก็ไปถึงตรงนั้นแล้ว ให้ดีที่สุดคือให้เขาเสนอราคาแบบรวม Entrance fee มาเลยตั้งแต่แรก จะได้ไม่ต้องมานั่งปวดหัวกลัวเงินหมดเหมือนพวกเรา เศร้าใจ

เตรียมของ

ก่อนที่จะบินเรามาดูกันว่าต้องพกอะไรไปบ้าง นอกจากเสื้อผ้าและกุงเกงลิงที่ทุกคนต้องพกไปนะจ๊ะ

  1. อุปกรณ์กันหนาวสำหรับอุณหภูมิประมาณ 2-7 องศา โดยไม่มีฮีทเตอร์ เอาถุงมือไปด้วยเพราะตอนไปยืนรอพระอาทิตย์ขึ้นที่โบรโม่ที่หนาวสลัด ถ้าใครไปอีเจี้ยนก่อนควรจะพกเสื้อกันหนาวไป 2 ตัวในกรณีิติดกลิ่นกำมะถันมา หรือจะไปเช่าเอาที่โบรโม่ก็ได้ (อีเจี้ยนไม่มีให้เช่า)
  2. ยา (แก้ปวดหัว, แก้แพ้, คลายกล้ามเนื้อ, เก้าเมารถ, อุปกรณ์ทำแผล, พลาสเตอร์,ท้องเสีย,ท้องอืด, ยาดม, ยาหม่อง) เอาแก้แพ้ไปเยอะๆ พวกเราซัดกันแทบจะหมดแผง
  3. สบู่ แชมพู โฟมล้างหน้า แปรงและยาสีฟัน เตรียมไปก็ดี เพราะไม่รู้ว่าโฮมเสตย์ที่เราจะไปมันจะมีหรือเปล่า
  4. อุปกรณ์สำหรับนอนสนามบิน อันได้แก่ ถุงนอน หมอนรองคอ (อันนี้ใช้นอนในรถด้วย) ที่คาดปิดตา ที่อุดหู มีหมดนี่รับรองนอนสบาย
  5. อุปกรณ์ Trekking ไม่อยากซื้ออะไรก็ขอให้ลงทุนกับรองเท้า ชีวิตจะดีขึ้น 80% เดินแล้วหนึบ ไม่กลิ้งตกปล่องภูเขาไฟ
  6. ไฟฉาย เอารุ่นติดหัวได้จะดีงามมาก แต่ถ้ามีแบบปกติก็ไม่ว่ากัน
  7. แว่นตากันแดด กันฝุ่น กันแดดเข้าตา แต่หลักๆคือใช้เป็นพร็อพถ่ายรูป
  8. รองเท้าแตะและเสื้อกันฝน ไว้ลุยน้ำตก สามารถไปซื้อที่น้ำตกได้
  9. Energy Bar และขนม อันนี้สำคัญ เอาไปเยอะๆ ของจริงคือหิวชิหายวายป่วง อาหาร + ขนมอินโดก็ไม่อร่อย
  10. กล้องและอุปกรณ์ถ่ายภาพ
  11. รางปลั๊กและหัวแปลง
  12. แลกเงินและพาสปอร์ต ขอแอบสอนการคำนวณเงิน ค่าเงินอินโดคือรูปีมีค่าเท่ากับ 1 IDR = 0.00275 THB เวลาคำนวณ ง่ายที่สุดคือตัดศูนย์สามตัวท้ายออกแล้วคูณด้วย 3 จะได้เป็นเงินไทย เช่น 30,000 IDR = 90 THB เป็นต้น

สำหรับใครอยากจะไปก็เอาไว้เป็นวิทยาทานนะแจ๊ะะะะะ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

*