อินโดนีเซีย ประเทศที่ยังไง๊ยังไงก็ไม่เคยติดอยู่ในลิสต์การท่องเที่ยวที่ยาวเป็นหางว่าวของฉันเพราะ 1.ร้อน 2.ร้อน 3.ร้อน (ที่ไหนไม่มีหิมะขอให้ตัดทิ้งไปก่อน) แต่เนื่องจากมีเพื่อนสองคน(ที่ไม่รู้จักกัน)ชวนไปภูเขาไฟชื่อเท่ ‘โบรโม่’ พร้อมๆกัน เลยเริ่มหาข้อมูลแล้วพบว่า เฮ้ยยย สวยดีนี่หว่า แถมใช้เงินไม่มากอีกตั้งหาก ถึงจะเป็นการปีนภูเขาไฟที่ยังพร้อมจะระเบิดอยู่ทุกเมื่อก็เหอะ (ซึ้อประกันการเดินทางไปหน่อยแล้วกัน) ว่าแล้วก็จัดการรวบรวมสมาชิกและจองตั๋วเครื่องบินโลด
ตั๋วเครื่องบิน
เราจะต้องบินไปลงที่เมืองสุราบายา (Surabaya) ได้ยินชื่อก็จะเมาล่ะ ซึ่งปัจจุบันไม่มีบินตรงจากกรุงเทพฯ ต้องไปทรานซิทซักที (ส่วนใหญ่จะเป็นสิงคโปร์) ฉันไปเสิร์ชหาตั๋วถูกและลองจองผ่าน Skyscanner เป็นครั้งแรก ได้บินกับ Tiger Airways ราคาคนล่ะ 5,700 + 1,000(โหลดกระเป๋าคนละ 10 กิโลไป-กลับ) = 6,700 บาท ราคานี้ไม่มีการเลือกที่นั่งและข้าวหรือน้ำซักหยดบริการนะฮ้าบ
แต่พอทางสายการบินส่งตั๋วจริงกลับมากลายเป็นว่าคนล่ะ 6,280 บาท ไอ้บริษัทนายหน้ามันกินหัวคิวไปตั้งสี่ร้อยกว่าบาท! เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ใช้ Skyscanner เสิร์ชหาคร่าวๆและจองจริงกับสายการบินต้นทาง นะคะ T^T
แผนการท่องเที่ยว
ทริปมาตรฐานของการไปโบรโม่ มักจะพ่วงภูเขาไฟอีกลูกที่ชื่อว่า คาวาอีเจี้ยน (Khawa-Ijen) ไปด้วย (ดูมันน่ารัก คาวาอี้ ไงไม่รู้) และอาจจะเลยไปถึงบาหลีเพราะอยู่ไม่ไกลนัก ข้ามทะเลไปจึ๊กนึงก็ถึง สรุปทางเลือก คือ
- โบรโม่ คาวาอีเจี้ยน: ให้ไปและกลับที่สุราบายา 3-4 วันก็เพียงพอ
- โบรโม่ คาวาอีเจี้ยน บาหลี: ไปสุราบายา กลับบาหลี ใช้ประมาณ 5 วัน
เนื่องจากฉันไม่ได้ดูแผนที่ตอนจอง และไม่ได้ตระหนักว่าบาหลีนั้นอยู่ใกล้แสนใกล้ เอ๊อะ เพราะความเฉิ่มของฉัน ทริปที่เราได้มาคือ คาวาอีเจี้ยน – โบรโม่ – สิงคโปร์ (อันหลังแถม เพราะทรานซิทนานมว๊าก)
ถามว่าไปช่วงไหนดีที่สุด ตอบว่าไม่รู้ เอาฤกษ์สะดวก ส่วนหนึ่งเพราะอากาศคล้ายๆกันทั้งปี มีแต่ต้องลุ้นเรื่องฝน พวกเราไปกันช่วง 19 – 23 ตุลา (5 คืน 5 วัน) อันนี้เป็นแผนคร่าวๆที่สามารถเอาไปลอกได้โดยสะดวกโยธาไม่ว่ากัน อิอิ
- 19 Oct (Wed)
20.05 น.- 23.30 – ออกเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ แวะเปลี่ยนเครื่องที่สิงคโปร์ 8 ชม 45 นาที ปรับเวลาเร็วขึ้น 1 ชั่วโมง (นอนสนามบินและกินข้าวเช้าที่สนามบิน) -
20 Oct (Thu)08.15 – 09.35 น. – ถึงสนามบินฮวนดาร์ สุราบายา ปรับเวลากลับมา 1 ชั่วโมง
10.00 – 19.00 น. – รถเช่ามารับที่สนามบิน ออกเดินทางสู่เมือง Bondowoso เข้าพักผ่อนที่โรงแรม (แวะมินิมาร์ทและแวะกินข้าวกลางวัน) -
21 Oct (Fri)01.00 – ออกเดินทางจากที่พัก สู่จุดเริ่มต้นทางเดิน Ijen Crater02.00 – 06.30 น. – เดินเท้าขึ้น Ijen Crater ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร ครึ่งทางแรกชันมาก เมื่อผ่านจุดพักจะเริ่มเป็นทางราบเลาะไหล่เขาจนถึงปากปล่องภูเขาไฟ เดินลงไป 45 นาที ชม Blue Fire (ในโลกมีแค่ที่นี่กับที่ Iceland) และเหมืองกำมะถันที่ด้านล้างของ Ijen Crater06.30 – 09.00 น. – เที่ยวชม Ijen Crater แล้วเดินกลับลงมา (ห้ามซื้อกำมะถัน เอากลับไม่ได้) มุ่งสุ่โบรโมเลยเพื่อไปเก็บแสงสุดท้ายของโบรโม่09.00 – 16.30 น. – ออกเดินทางจากเมือง Bondowoso สู่หมู่บ้าน Cemolo lawang เมือง Probolinggo เข้าที่พัก
-
22 Oct (Sat)03.00 – 07.00 น. – ออกเดินทางไปชม Bromo sunrise ที่ Mount Penanjekan 1 (Jeeb 4×4)07.30 – 09.15 น. – เดินเท้าขึ้นชมภูเขาไฟที่ Mount Bromo (มีม้าให้เช่าหากเดินไม่ไหว)09.15 – 10.00 น. – ชมทุ่งหญ้าสะวันนาและทะเลทราย11.00 – 13.00 น. – กลับไปพักผ่อนเก็บกระเป๋าเช็คเอ้าท์ออกมา13.00 – 15.00 น. – Madakaripura waterfall เตรียมกางเกงขาสั้น รองเท้าแตะ ไม่ต้องเอากล้องไป15.00 – 18.30 น. – ออกเดินทางสู่สุราบายา เป็นโรงแรมในสนามบิน Ibis budget Surabaya Airport
-
23 Oct (Sun)06.oo – 09.15 น. – ทานอาหารเช้าและพร้อมเช็คอินไฟลท์10.15 – 14.00 น. – ออกจากสุราบายา แวะเปลี่ยนเครื่องที่สิงคโปร์ 17 ชม. ปรับเวลาขึ้น 1 ชั่วโมง ฝากกระเป๋าไว้ที่สนามบิน14.00 – 16.00น. – เดินทางไปห้าง Vivo City กินข้าวกลางวันที่ Food Republic
16.00 – 17.00 น. – ข้ามไปเกาะเซนโตซ่า กิจกรรม Skyline & Luge
17.00 – 19.00 น. – ช็อปปิ้ง ณ. Orchard19.00 – 20.00 น. – Merlion ดูแสงสีเสียง20.00 – 21.00 น. – Song Fah บักกุดเต๋ แถว Clark Quay21.00 – 22.00 น. – ก๊งริมน้ำที่ Clark Quay23.00 น. – กลับมานอนสนามบินและขึ้นเครื่องกลับ 6.40 น. วันรุ่งขึ้น
ถือเป็นทริปที่ทรหดพอสมควรเพราะนอนสนามบินตั้ง 2 คืน (ถึงจะเป็นสนามบินที่ดีที่สุดในโลกก็เหอะ) นั่งรถรัวๆ ตื่นเช้าทุกวันมีตั้งแต่เที่ยงคืนไล่จนถึงหกโมง แถมยังต้องเก็บแรงไปซ่าแบบกิจกรรมอัดแน่นปิดท้ายที่สิงคโปร์อีก พวกลูกทริปที่หลงผิดมากับฉันนี่มันน่าสงสารจริงๆ หึหึ
งบประมาณ
ค่าใช้จ่ายหลักๆของทริปนี้คือ การซื้อทัวร์ โอ๊ะๆ เหล่า Backpackers อย่าเพิ่งตกใจไป เพราะทัวร์ในที่นี่คือ การเช่ารถพร้อมคนขับ (เพราะถนนอินโด+ภูเขา เส้นทางที่จะไปก็มีแต่รถบรรทุก พวกเรามือไม่ถือกันแน่ๆ) ที่พัก (ที่ติดต่อโคตรจะลำบาก) พวกไกด์ตามที่ต่างๆและบริการอิหลุ่ยฉุยฉ่าย แต่เราจะเป็นคนกำหนดแพลนการท่องเที่ยวด้วยตัวเอง
ตารางข้างล่างสรุปค่าใช้จ่ายของทัวร์โบรโม่ชื่อดังในพันทิป พร้อมช่องทางติดต่อ ส่งเมล์หาพวกนางต้องอดทน เพราะเป็นวันกว่าจะตอบกลับ นอกจาก Adit ที่รวดเร็วฉับไวไม่เกินชั่วโมงด้วยการใช้ facebook สื่อสารกับลูกค้า เลยได้ใจอิฉันไปครองก๊าบ
ขอ Note นิดนึงว่าตอนนี้ไม่ต้องจ่ายค่าภาษีสนามบินไปเงินสดเพราะได้ถูกรวมไปในค่าตั๋วแล้ว ข้างล่างเป็น email template เอาไว้ส่งหาทัวร์ต่างๆเวลาขอราคา ให้ดีที่สุดคือแพลนไว้ก่อนว่าจะไปไหนเมื่อไหร่ยังไง
ข้อผิดพลาดประการสำคัญของฉันคือ Entrance fee โปรดจดจำไว้ว่าประเทศอินโดมีด่านเถื่อนเยอะมาก มันอยากจะตั้งมาดักก็ตั้ง โขกสับราคาสูงๆกับนักท่องเที่ยวตัวน้อยๆอย่างพวกเรา = หมูในอวย ซึ่งสุดท้ายก็ต้องจ่าย เพราะไหนๆก็ไปถึงตรงนั้นแล้ว ให้ดีที่สุดคือให้เขาเสนอราคาแบบรวม Entrance fee มาเลยตั้งแต่แรก จะได้ไม่ต้องมานั่งปวดหัวกลัวเงินหมดเหมือนพวกเรา เศร้าใจ
เตรียมของ
ก่อนที่จะบินเรามาดูกันว่าต้องพกอะไรไปบ้าง นอกจากเสื้อผ้าและกุงเกงลิงที่ทุกคนต้องพกไปนะจ๊ะ
- อุปกรณ์กันหนาวสำหรับอุณหภูมิประมาณ 2-7 องศา โดยไม่มีฮีทเตอร์ เอาถุงมือไปด้วยเพราะตอนไปยืนรอพระอาทิตย์ขึ้นที่โบรโม่ที่หนาวสลัด ถ้าใครไปอีเจี้ยนก่อนควรจะพกเสื้อกันหนาวไป 2 ตัวในกรณีิติดกลิ่นกำมะถันมา หรือจะไปเช่าเอาที่โบรโม่ก็ได้ (อีเจี้ยนไม่มีให้เช่า)
- ยา (แก้ปวดหัว, แก้แพ้, คลายกล้ามเนื้อ, เก้าเมารถ, อุปกรณ์ทำแผล, พลาสเตอร์,ท้องเสีย,ท้องอืด, ยาดม, ยาหม่อง) เอาแก้แพ้ไปเยอะๆ พวกเราซัดกันแทบจะหมดแผง
- สบู่ แชมพู โฟมล้างหน้า แปรงและยาสีฟัน เตรียมไปก็ดี เพราะไม่รู้ว่าโฮมเสตย์ที่เราจะไปมันจะมีหรือเปล่า
- อุปกรณ์สำหรับนอนสนามบิน อันได้แก่ ถุงนอน หมอนรองคอ (อันนี้ใช้นอนในรถด้วย) ที่คาดปิดตา ที่อุดหู มีหมดนี่รับรองนอนสบาย
- อุปกรณ์ Trekking ไม่อยากซื้ออะไรก็ขอให้ลงทุนกับรองเท้า ชีวิตจะดีขึ้น 80% เดินแล้วหนึบ ไม่กลิ้งตกปล่องภูเขาไฟ
- ไฟฉาย เอารุ่นติดหัวได้จะดีงามมาก แต่ถ้ามีแบบปกติก็ไม่ว่ากัน
- แว่นตากันแดด กันฝุ่น กันแดดเข้าตา แต่หลักๆคือใช้เป็นพร็อพถ่ายรูป
- รองเท้าแตะและเสื้อกันฝน ไว้ลุยน้ำตก สามารถไปซื้อที่น้ำตกได้
- Energy Bar และขนม อันนี้สำคัญ เอาไปเยอะๆ ของจริงคือหิวชิหายวายป่วง อาหาร + ขนมอินโดก็ไม่อร่อย
- กล้องและอุปกรณ์ถ่ายภาพ
- รางปลั๊กและหัวแปลง
- แลกเงินและพาสปอร์ต ขอแอบสอนการคำนวณเงิน ค่าเงินอินโดคือรูปีมีค่าเท่ากับ 1 IDR = 0.00275 THB เวลาคำนวณ ง่ายที่สุดคือตัดศูนย์สามตัวท้ายออกแล้วคูณด้วย 3 จะได้เป็นเงินไทย เช่น 30,000 IDR = 90 THB เป็นต้น
สำหรับใครอยากจะไปก็เอาไว้เป็นวิทยาทานนะแจ๊ะะะะะ