Tag Archives: Kellogg

Kellog Club Acitivites กิจกรรมดีๆกับการกล้าที่จะเป็นตัวเอง

Post ที่แล้วเขียนเกี่ยวกับ Social life ที่ Kellogg วันนี้ขอเขียนเกี่ยวกับการทำกิจกรรมชมรมหรือ club ต่างๆกันบ้าง (เมื่อไหร่จะเขียนเกี่ยวกับเรื่องเรียนเนี่ย ตกลงไม่ได้มาเรียนใช่ไหม ตอบ!) ท้าวความกันก่อนว่าที่ MBA ทุกที่จะมีชมรมที่ดำเนินการทุกอย่างโดยนักเรียนหรือเรียนว่า student-run club โดยที่ club เหล่านี้มีหลายประเภท ตั้งแต่ที่เกี่ยวกับ industry/อาชีพ เช่น Consulting club, Technology club, family business club เกี่ยวกับเชื้อชาติต่างๆ เช่น Southest Asia Club, Black Management Association, Hispanic Management Association เกี่ยวกับกีฬา เช่น Tennis, Golf, Ski & Snowboard เกี่ยวกับ gender เช่น Women Management Association, Pride @ Kellogg (LGBTQA) และกลุ่ม entertainment, ...

Read More »

Kellogg MBA Social Life กับความยากลำบากในการ Blend In

หลังจากสมบุกสมบันอยู่อเมริกานานถึง 17 เดือน ดูเวลาตกฟากสัมพันธ์กับการเคลื่อนของดวงดาว (นี่ก็เพ้อเจ้อ) ก็ได้ฤกษ์กลับมาเยี่ยมบ้านซักที ช่วงนี้โดนกักตัวอยู่ใน State Quarantine เหงามากเลยตัดสินใจนั่งรำพึงรำพัน เอ้ย reflect ว่าเสียเงินไปเรียนเมืองนอกอยู่ปีกว่าๆได้อะไรกลับมาบ้าง ขอพื้นที่ 2 ย่อหน้าในการปูเรื่อง ความจริงแล้วเป็นคนที่มี confidence กับ self-acceptance ต่ำมากโดยเฉพาะเรื่องเพื่อน ตอนเรียนมัธยมก็โดนเพื่อนจับกลุ่มกันแบน คนอื่นอาจจะสนุกที่สุดในชีวิตแต่สำหรับฉันถือเป็นเสมือนยุคมืดของการเข้าสังคมเลยก็ว่าได้ ตอนทำงานก่อนมาเรียน MBA ก็โดนเพื่อนร่วมงานในทีมพากันแบนอีกรอบ เลยเป็นตราบาปติดตัวว่า คิดวนไปวนมาว่ากุมีปัญหาอะไรหรือเปล่าฟะ ถึงได้มีปัญหาซ้ำแล้วซ้ำเล่าไม่ว่าจะพยายามปรับปรุงตัวเองแค่ไหนก็ตาม โอเค จบการดราม่า หลักๆที่ตัดสินใจมาเรียนที่ Kellogg เพราะว่าอยากพัฒนา social skills ของตัวเอง ภาษาชาวบ้านคือ เข้าสังคมยังไงไม่ให้คนเกลียด อันเป็นที่มาของ post นี้ ซึ่งเขียนในวันที่แผลใจหายสนิทแถมมาด้วยความมั่นใจอีกหนึ่งกระบุง (เบาได้เบาลู้กกก) Blend In Difficulty Level ของดีของการมาเรียน MBA ที่อเมริกาก็คือ จะทำให้เจอคนมากหน้าหลายตาหลายเผ่าพันธ์จากทุกมุมโลก แต่ก็ทำให้คนไทยที่ไม่เคยออกไปอยู่นอกประเทศเลยอย่างฉันเกิด culture shock, lauguage shock ไปตามๆกัน ตอนไปดูโรงเรียนที่ Duke ...

Read More »

CIM – Kellogg กับการรับน้องระดับโลก

เนื่องจากมีความเบื่อจากการดูซีรีย์เกาหลีและอ่านนิยายจีน เลยขอสลับมาเขียนเกี่ยวกับเรื่องที่มาเรียน MBA อีกครั้งหนึ่ง อยากจะเล่าย้อนไปตอนที่มาถึงใหม่ๆแล้ว Kellogg จัดรับน้องเตรียมเรียน MBA นึกถึงอารมณ์ตอนปอตรีเข้าวิศวะแล้วมีรับน้อง 3 เดือนกว่าจะได้เกียร์ อันนี้จัดไป 3 วัน อัดแน่นครบทุกรสชาติแบบเรียกได้ว่า การรับน้องระดับโลก เป็นอย่างนี้นี่เอง กิจกรรมรับน้องที่ Kellogg ถูกเรียกว่า CIM ย่อมาจาก Complete Immersion in Management แต่ก่อนมีห้าวันแต่มันคงหนักไป จัดไปจัดมา ในปีของฉัน (Class of 2021) เหลือ 3 วัน 3-5 September 2019 แล้วก็เริ่มเรียนเลยหลังจากนั้น แม้จะผ่าน ACE (ตามอ่านได้ที่ https://wp.me/p6REJW-1nV), KWEST (ตามอ่านได้ที่ https://wp.me/p6REJW-1md) และกิจกรรม Social Impact (เดี๋ยวเขียนแล้วเอาลิงค์มาให้นะ) มาแล้ว แต่ฉันก็ยังตื่นเต้นกับ CIM อยู่มาก เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่จะได้เจอกับเพื่อนร่วมคลาสทั้ง 450 ชีวิตแบบจัดเต็มไม่มีกั๊ก ถือเป็นการเริ่มต้นชีวิต MBA ที่ฝันไว้มาหลายปี ...

Read More »

US East Coast Road Trip EP1

แปะลิ้งค์ให้กดไปดู EP อื่นๆได้ง่ายๆจ้า EP1 Intro + บินถึง Chicago/Kellogg School of Management EP2 New York EP3 Washington DC, Philadephia, Boston EP4 Acadia National Park/Chicago กลับมาอีกครั้งหลังหายไป 6 เดือน มีคนถามว่า(เมิง)ยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ ยังอยู่ค่ะเพื่อนๆ แค่ช่วงที่ผ่านมายุ่งมาก ส่วนช่วง covid-19 นี้ก็ว่างมาก self-isolate ตัวเองอยู่ในอพาร์ทเม้นท์ คิดถึงภูเขา sunset sunrise สวยๆจนต้องงัดทริปนี้ออกมาเขียนไปพลางๆ ทริปนี้เป็นทริปประเดิมก่อนที่ฉันจะเริ่มเรียน MBA ที่อเมริกา เป็นการเที่ยวเมืองใหญ่ๆในฝั่งตะวันออกของประเทศอันใหญ่โตนี้ ประกอบด้วย New York, Washington DC, Philadelphia, Boston, Acadia National Park (ในรัฐ Maine) และมาจบที่ Chicago เมืองที่ฉันจะต้องอยู่ไปอีกสองปี ไม่พูดมาก (แต่มึงพล่ามมาสอง paragraph ...

Read More »

ACE – คลาสเรียนปรับพื้นฐาน สู่การเป็นนักเรียน MBA

ACE (American Culture and English for International Business Students) program คือคลาสเรียนที่ Kellogg จัดขึ้นเพื่อให้นักเรียนต่างด้าวทั้งหลายได้ปรับตัวปรับใจก่อนเข้าสู่วงวานการเรียนแบบฉบับอเมริกัน เริ่มจัดเมื่อ 14 ปีที่แล้ว และต่อเนื่องมาตลอดจนถึงปัจจุบัน โดยข่าวดีมากๆก็คือ ปีนี้ถือเป็นปีที่ 2 ที่ให้เรียนกันฟรีๆ เอาแต่ตัวและหัวใจมาก็พอ (อ่อ จ่ายค่าเช่าอพาร์ทเม้นท์ด้วย) โดยจากเดิมรู้สึกว่าจะคิดค่าเรียนประมาณแสนกว่าบาท หลายคนคิดว่า โหย งั้น international student ก็มากันตรึมเลยสินะ กะคร่าวๆคือเด็กต่างชาติ 35% ของชั้นเรียน 450 คน คือราวๆ 150 คน คิดว่ามาได้ซัก 1 ใน 3 ก็ประมาณ 100 คน… แต่ในความจริงแล้ว อย่าลืมว่าเด็กต่างชาติที่ติด Kellogg ส่วนใหญ่เหนือปุถุชนธรรมดาไปเยอะ มีประสบการณ์ในอเมริกาและต่างประเทศมาแล้วค่อนชีวิต พูดภาษาอังกฤษได้ดีกว่าภาษาถิ่นของตัวเองด้วยซ้ำ คนกลุ่มนี้เลือกที่จะใช้เวลาหลังจากทำงานหนัก (พวกที่ทำ consulting หรือ investment banking มาก่อน) ในการพักผ่อน ...

Read More »

KWEST to Alaska ทริปประหลาดที่ผู้ร่วมทริปไม่สามารถเปิดเผยตัวตนได้

KWEST (อ่านว่า เควส) ย่อมาจาก Kellogg Worldwide Experience and Service Trip เป็นกิจกรรมสำหรับนักเรียน MBA ของ Kellogg ที่กำลังจะเข้าไปเรียนในปีนั้นๆ โดยส่งนักเรียนออกเป็นกลุ่มๆ กลุ่มละประมาณ 20-25 คน (รวมทั้ง significant others – แฟน สามี ภรรยา ลูกๆ หรือที่ Kellogg เรียกว่า Joint Venture หรือ JV) ให้ไปเที่ยวด้วยกันหนึ่งสัปดาห์ ณ สถานที่ต่างๆกว่า 40 ประเทศทั่วโลก แล้วเลือกสถานที่ที่จะไปยังไง? กิจกรรมเกือบทุกอย่างของ Kellogg จะถูกจัดโดยนักเรียน (student-led activities) รวมถึง KWEST ด้วย นักเรียนปีสอง 5 คน จะรับหน้าที่เป็น KWEST Leader ในแต่ละทริป ร่างแผนการท่องเที่ยวเป็นข้อมูลให้นักเรียนใหม่อย่างเราๆเลือกสถานที่ที่อยากจะไป 10 อันดับเรียงจากมากไปน้อย แต่ละทริปจะมีข้อมูลอย่างละเอียด รวมถึงการให้คะแนนในด้านต่างๆ ...

Read More »

เส้นทางสู่ความฝัน ฉันจะไป Top U

เคยมีความฝันไหม แล้วถ้าฝันนั้นอยู่ไกลจนไม่แน่ใจว่าจะเดินไปถึงวิธีไหน เป็นคุณ จะทำอย่างไร ความฝันทั้งชีวิตของฉัน คือการได้ไปเรียนต่อต่างประเทศ บางคนอาจมองว่าเป็นเรื่องไม่ยาก แต่มันจะไม่ง่ายเลยสำหรับคนที่ไม่ได้มีทุนทรัพย์ที่พร้อมหรือไม่ได้มีต้นทุนชีวิตที่ดีแบบฉัน (ตายล่ะ เริ่มต้นได้ดราม่ามาก แต่อีกสองบรรทัดก็กลับมาคอมมาดี้แล้ว) ความฝันนี้ทำให้ฉันตั้งใจฝึกฝนภาษาอังกฤษอย่างหนัก ตอนนั้นแค่คิดแบบตื้นที่สุดว่าจะไปเรียนเมืองนอกได้ก็ต้องพูดภาษาเค้าได้ก่อนใช่ไหมล่ะ ประกอบกับพ่อแม่ของฉันที่สนับสนุนด้านภาษามาตั้งแต่เล็ก (คือทำอะไรไม่ได้ขอให้มันคุยกับคนอื่นรู้เรื่องเป็นพอ) คอยส่งให้เรียนพิเศษทั้งภาษาไทย อังกฤษ ตามขอบเขตของกำลังทรัพย์ที่มี จนกระทั่งโตถึงระดับหนึ่งฉันก็คิดได้ในที่สุด (ด้วยความงก) ว่า การเรียนพิเศษคือการเสียเงินโดยใช่เหตุ เรียนจาก dictionary เอาล่ะกัน จากนั้นก็บังคับเพื่อนให้เอา application dictionary ของมันมาลงในเครื่องตัวเองทันที (ทำไมมันชั่วแบบนี้เนี่ย) ฉันเคยสอบในโครงการนักเรียนแลกเปลี่ยน AFS (สมัยก่อนดังมากนะโครงการนี้) ได้ไปเรียนที่อเมริกาแต่ต้องจ่ายเองเป็นแสนบาท ตอนนั้นไม่มีตังค์ก็เลยอดไป เลยจำฝังใจว่า ถ้าไม่มีตังค์จะไปเรียนต่างประเทศต้องได้ทุน ซึ่งคนได้ทุนต้องไปผู้ที่มีผลการเรียนดี ฉันเลยตัดสินใจก้าวสู่เส้นทางสายเนิร์ด ใช้จิตวิทยาหลอกเพื่อนให้กลัวจนทำข้อสอบไม่ได้เพื่อทำให้ฉันได้เกรดดี (ล้อเล่นนะ) จนกระทั่งตอนเรียนจบ ฉันได้ทุน กพ. และทุนจากที่มหาลัยไปเรียนต่อต่างประเทศตามที่หวัง แต่พอถามตัวเองว่าโอเคมั้ยกับ 7 ปีที่จะไม่มีรายได้และพอจบมารายได้ก็อาจไม่พอที่จะทำให้ครอบครัวสบายได้ในระยะเริ่มต้น ดังนั้นการสละทุน จึงเป็นคำตอบของฉัน 4 ปี หลังจากนั้นหมดไปกับการเติบโตในสังคมทำงาน เห็นเพื่อนๆที่ทำงานเดียวกันเริ่มต้นสมัครมหาลัยระดับโลก (หลังจากนี้จะขอเรียกว่า Top U) ก็ได้แต่อิจฉา (ไม่อยากจะยอมรับเลย แต่นิสัยไม่ดีแบบนั้นจริงๆล่ะ) ...

Read More »